ยังไม่รู้ชะตากรรม ! 5 ชีวิต หายตัวปริศนา นานกว่า 2 เดือน จ.นครศรีธรรมราช

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ รายการ เช้านี้ที่หมอชิต นำเสนอข่าว คน 5 คนหายตัวไปจากบ้านที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังแฟนหนุ่มมารับลูกสาว-แม่-เพื่อนลูกสาว และหลานอีก 2 คน ขึ้นรถตู้ไปแล้วติดต่อไม่ได้อีกเลยนานกว่า 2 เดือนแล้ว ถึงวันนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ญาติ ๆ ของคนที่หายตัวไปเชื่อว่า แฟนหนุ่มใช้นางนกต่อมาล่อลวง

 

กรณีการหายตัวไปของเครือญาติพร้อมกันถึง 5 ราย คือ นางอุษา ปานรอด อายุ 43 ปี ชาวบ้านตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช, นางสาวชนนิกานต์ หรือ น้องบีม โตชะนก อายุ 22 ปี นักศึกษาราชภัฏสุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นลูกสาวนางอุษา, นางสาวญาสุมินร์ หรือ น้องรุ้ง โจมฤทธิ์ อายุ 22 ปี เพื่อนนางสาวชนนิกานต์, เด็กชายพรพิพัฒน์ ปานรอด อายุ 13 ปี หรือ น้องฟอร์ด, เด็กหญิงศิรประภา หรือ น้องฟ้าใส รุจิตร อายุ 13 ปี และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา และล่าสุดทางตำรวจออกหมายจับนายลมกรด แสงสว่าง หรือ แบงค์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางสาวชนนิกานต์แล้ว แต่ยังไม่พบตัว

 

เมื่อวานนี้ นางสาวเพ็ญศรี ปานรอด พี่สาวของนางสาวอุษา ปานรอด และเป็นป้าของหลานที่หายไปพร้อมกัน ได้เปิดเผยข้อมูลพฤติการณ์ของนายลมกรด หรือ แบงค์ เธอเชื่อว่าเป็นการล่อลวงมาตั้งแต่ต้น เคยพูดทัดทานให้ระวังตัวแต่น้องสาวยังคงเชื่อว่านายลมกรดว่าที่ลูกเขยเป็นคนดี จึงยอมขายที่ดิน 1 แปลง มูลค่ากว่า 300,000 บาท หยิบยืมเพื่อนบ้านอีกกว่า 100,000 บาท อ้างว่าจะไปลงทุนกับนายลมกรด เธอยังสังเกตด้วยว่าช่วงหลังน้องสาวแสดงอาการเครียดหนัก อาจจะมีภาวะกดดันบางอย่าง

 

นางเพ็ญศรี ระบุว่า หลังจากนายลมกรดเข้ามาบ้านนางอุษา ได้ตัดกล้องวงจรปิดทั้งหมด แถมทำตัวเหมือนคนมีฐานะ แต่ใช้เงินของนางอุษาและน้องบีมใช้จ่าย ตนติดต่อนางอุษาได้เพียงครั้งเดียวคือวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา น้องสาวเป็นฝ่ายโทรมาสั่งให้ช่วยดูแลต้นทุเรียนให้ด้วย จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงเชื่อว่านางปลา หรือ นางบังอร โทคะ ที่นั่งในรถตู้มาด้วยกันเป็นนางนกต่อ ล่อลวงให้น้องบีม มาพบกับนายลมกรด หรือ แบงค์ ขณะที่ทำงานอยู่ในแหล่งบันเทิงแห่งหนึ่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนน้องบีมหลงเชื่อ

 

ส่วน นางสุจิต รุจิต อายุ 75 ปี มารดาของนางอุษาและนางเพ็ญศรี ยายของหลาน ๆ ที่หายไป ร่ำไห้ขอให้เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวช่วยติดตามหาตัวลูกหลานกลับมาให้ได้ทั้งหมด และบอกพฤติกรรมของนายลมกรด หรือ แบงค์ ว่า เคยข่มขู่เรื่องมีปืนอยู่ในรถด้วย

 

ส่วนความคืบหน้าคดี มีรายงานว่า พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เรียกนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนำสำนวนเข้ารายงานคดีที่ สตช. เมื่อวานนี้ และเร่งส่งทีมสืบสวนทั้งจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และกองบังคับการกองปราบปราม และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าติดตามสืบสวนคลี่คลายคดี

 

และวันเดียวกันที่ สภ.ท่าศาลา รถตู้สีขาวที่ถูกระบุว่าเป็นคันที่เป็นพาหนะที่นายลมกรดนำมารับทั้ง 5 คน ถูกตรวจยึดมาไว้ที่ สภ.ท่าศาลา และจับกุม นายนพดล แสนเมืองอินทร์ คนขับรถตู้มาได้แล้ว หลังจากสอบสวนแล้วได้ให้ประกันตัวไปในวงเงิน 70,000 บาท ส่วนนายลมกรด และนางบังอร ยังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวจากทีมสืบสวนภาค 5

 

พันตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สาลีรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.ท่าศาลา ระบุว่า หลังตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายลมกรด พบว่ามีคดีฉ้อโกง 1 คดี แต่ยอมความกันไปได้แล้ว ส่วนพฤติกรรมพบว่าไม่มีบุคลิกโหดร้ายรุนแรง จึงยังมั่นใจว่าไม่น่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับบุคคลทั้ง 5

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมจากฝั่งเจ้าหน้าที่ว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ทำงานยากลำบากเนื่องจากกรอบคดีนำไปสู่การออกหมายจับไปถึงคดีอื่น ๆ ได้ยาก พฤติการแห่งคดีตั้งต้นทำได้แค่คดีพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ดูแล เพียงข้อหาเดียวก่อน ซึ่งผู้ต้องหาคือนายนพดลที่ถูกจับและประกันตัวแล้ว