อดีตแม่บ้านทูตตัดพ้อ ทำงานจนตาบอด 2 ข้าง ได้เยียวยาเพียง 1.8 แสน | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

อดีตแม่บ้านทูต คิดสั้นเดินให้รถชนแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยไว้ทัน สอบถามถึงสาเหตุ เธอตัดพ้อว่า ทำงานเป็นแม่บ้านทูตจนตาบอด แต่ท่านทูตกับเยียวยายาแค่ 186,000 บาทเท่านั้น อ้างไม่มีกฎหมายรองรับ ตอนนี้ตาทั้ง 2 ข้างบอดสนิท ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม 

 

เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันนี้ มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้ช่วยเหลือหญิงตาบอดพยายามจะเดินให้รถชนบริเวณแยกไฟแดงวัดหลักสี่ เมื่อไปถึงได้พบกับหญิงอายุประมาณ 45 ปี ลักษณะการแต่งกายดูภูมิฐาน เจ้าหน้าที่จึงพามาสงบสติอารมณ์ที่ สน.ทุ่งสองห้อง 

 

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้มาพบกับ คุณรัตน์ตพร แสงอ่อน อายุ 45 ปี ซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง นั่งตัดพ้อระบายความคัดแค้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเล่าว่า เมื่อปี 2550 ตนได้มีโอกาสทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา ตอนนั้นสภาพร่างกายยังปกติดี ผ่านไป 2 ปีครึ่ง ท่านทูตได้ย้ายไปประจำที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ ตนเองก็ต้องย้ายตามไปด้วย ซึ่งก่อนไปก็มีการตรวจเช็กสุขภาพก่อน พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ มีแค่เรื่องสายตาสั้น สายตาเอียง เป็นธรรมดา หลังจากไปอยู่ที่กรุงปารีส ก็รู้ทันทีว่าร่างกายน่าจะรับกับภูมิอากาศไม่ได้ ประกอบกับเครื่องทำความร้อน ของตึกเสียเป็นประจำ บางครั้งต้องหาที่ซุกนอน เพื่อให้ตัวเองอบอุ่น ตนเองจึงทำเรื่องขอลาออกจากงาน เพื่อกลับบ้านที่ประเทศไทย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธให้ลาออกถึง 2 ครั้ง ตนเองจึงต้องทนทำงานต่อไป แต่สุดท้ายร่างกายก็ทนไม่ไหว ป่วยเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูก จนตาข้างซ้ายดับมองไม่เห็น เงินที่เก็บจากการทำงาน ก็นำไปใช้รักษาตัวหมด

 

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นั่น ตนเองต้องทำงานทุกอย่างคอยต้อนรับแขกที่มาเยือน คอยเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงล้างจาน และเคยป่วยจนถึงขั้นมือแตก เลือดออก ซึ่งเกิดจากความเย็นของน้ำในระหว่างที่ล้างจาน หลังจากที่รู้ว่าตาซ้ายมองไม่เห็นก็ได้ไปบอกเจ้านาย ซึ่งเจ้านายก็พาไปหาหมอ แต่ด้วยการสื่อสารคนละภาษาจึงทำให้การรักษาไม่ดีเท่าที่ควร จนทำให้ตาข้างขวามองไม่เห็นตามมา จากนั้นท่านทูตได้เรียกไปคุย และผลักไสไล่ส่งเราบอกให้เรากลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย 

 

พอกลับมาที่ประเทศไทย ก็พยายามรักษาตัว แต่ก็ยังโชคดีที่มีภริยาท่านทูตอีกคนพาไปทำงานที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศเกาหลี เนื่องจากเขาเห็นเราน่าสงสาร อยากให้เรามีรายได้ หลังไปทำงานตนเองก็เจอเพื่อนร่วมที่คอยกลั่นแกล้ง ดูถูก เหยียดหยาม หาว่าตนมาสร้างความลำบากให้กับพวกเขา ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจจึงตัดสินใจขอลาออก ตอนนั้น ยอมรับว่าโกหกท่านทูตไปว่า ต้องการกลับมารักษาตัว และกลับมาดูแลแม่

 

หลังกลับมา ก็ได้ไปหาท่านทูตฝรั่งเศษที่บ้าน ตอนนั้นท่านเกษียณกลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว ซึ่งได้พบกับภริยาท่านทูต เพื่อเรียกร้องให้เขามารับผิดชอบที่เราไปทำงานให้เขาจนต้องเสียตาทั้ง 2 ข้าง แต่กลับถูกไล่ให้ไปขอทานที่อื่น จากนั้นจึงตัดสินใจยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 60 เรื่อยมานับ 10 ครั้ง แต่สุดท้ายถูกปฏิเสธหมด แต่ก็มีบางหน่วยงานเยียวยามาให้เพียง 186,000 บาท แลกกับการตาบอด 2 ข้าง

 

ตนเองมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมกับตนเอง ทำไมคนไทยหนึ่งคนที่ไปทำงานให้ทูตแล้วประสบปัญหา แต่กลับหากฎหมายมาช่วยเหลือเยียวยาคนไทยคนนี้ไม่ได้เลย วอนผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้การช่วยเหลือให้สิทธิ์ที่ตัวเองจะได้ ซึ่งเชื่อว่าเงินที่เรียกร้องไปมันไม่ได้มากกับสิ่งที่ตนเองสูญเสียไปเลย

 

ตอนนี้ประกอบอาชีพรับนวดอิสระ และวันนี้ได้มีนัดมานวดให้ลูกค้าย่านหลักสี่ ตนเองจนตัดสินใจจบชีวิตลง เพราะตนเองไม่มีเงินรักษาแม่ที่กำลังป่วย

 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/jz8uWOER53o