นายหน้าแบ็กใหญ่ หลอกซื้อดาวน์รถ ขู่แจ้งความรายการถกไม่เถียง : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

หนุ่มใหญ่สะอื้น นายหน้าแบ็กดี หลอกซื้อดาวน์รถ ไม่ผ่อนแล้วนำไปขายต่อ สืบประวัติพบมีคดีติดตัวกว่า 24 คดี เคยถูกจับข้อหาฉ้อโกง หลอกซื้อดาวน์รถกว่า 72 คัน แต่มีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย แถมยังขู่กลางรายการว่าจะฟ้องให้หมดทุกคน

 

วันที่ 27 มิ.ย. 66 คุณสมชาย ตาลเจิม (เอ๋) ผู้เสียหาย และ คุณจิรมน ประธรรมแต (ตุ้ม) ผู้เสียหาย เล่าว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีเงินผ่อนรถบรรทุกต่อ ตนจึงตัดสินใจปล่อยขายรถบรรทุกให้กับนายหรั่ง โดยมีการทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรครบถ้วน นายหรั่งรับรถไปแล้วจะเป็นผู้ผ่อนรถต่อให้ แล้วจะนำไปเปลี่ยนชื่อในสัญญาภายหลัง

 

 

หลังจากนั้นตนได้ทราบเรื่องจากไฟแนนซ์ว่าขาดผ่อนรถ จึงถูกไฟแนนซ์ตามทวงให้ไปนำรถคืนมา ถ้าไม่สามารถทำได้จะถูกฟ้อง ตนจึงติดตาม GPS ของรถไป พบว่ารถอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี รถมีเจ้าของคนใหม่ ที่ซื้อต่อจากนายหรั่ง ตนจึงเข้าไปพูดคุยเจรจาแต่กลับโดนทำร้ายร่างกาย เมื่อไปแจ้งความปรากฏว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอิทธิพลในพื้นที่

 

 

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้คำแนะนำทางกฎหมายว่า คุณเอ๋จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่องจากนำทรัพย์สินของไฟแนนซ์ไปขาย แล้วจึงจะสามารถซัดทอดต่อไปยังนายหน้าที่รับซื้อรถได้ เพื่อให้ตำรวจสามารถกวาดล้างได้ทั้งหมด โดยนายหรั่งบอกทีมงานถกไม่เถียงว่า จะฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในรายการนี้ ที่เสนอข่าวให้ตนเองเสียหาย ส่วนทนายสงกาญ์ ยินดีที่จะให้ฟ้อง เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่านายหรั่งกระทำผิด และสามารถฟ้องกลับได้เช่นกัน

 

 

คุณเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร  รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่ากระทรวงยุติธรรม จะเข้ามาช่วยดูแลในกรณีการทำร้ายร่างกาย โดยผู้เสียหายจะต้องไปแจ้งความแล้วนำหลักฐานการแจ้งความมาขอเยียวยาได้ ส่วนการช่วยเหลือระหว่างไฟแนนซ์กับผู้เสียหาย สามารถมายื่นขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยได้

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในกรณีนี้ต้องการให้ผู้เสียหายมาพบตนที่สโมสรตำรวจ แล้วจะช่วยดูแลเรื่องคดีนี้ให้ด้วยตนเอง ส่วนนายหน้าที่มีคดีความติดตัวกว่า 24 คดี แต่มีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทางตำรวจจะช่วยติดตามคดีทั้งหมดให้ โดยเอาผู้เสียหายเป็นที่ตั้ง