พรรคเพื่อไทยยืนยันใข้สูตรเดิม ปมเก้าอี้ประธานสภาฯ ส่วนทางพรรคก้าวไกล ก็ยืนยันเหมือนกันว่า พรรคอันดับ 1 ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ
ดรามา “เก้าอี้ประธานสภาฯ” ทำ 2 พรรคร้าวหนัก
กลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงทันที ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลการประชุมเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) โดยระบุว่า ความเห็นของพรรค จะเสนอใช้สูตร 14+1 แก่ทั้ง 2 พรรค โดยพรรคก้าวไกลได้ 14 ตำแหน่ง + 1 ตำแหน่ง (นายกรัฐมนตรี) ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้ 14 ตำแหน่ง + 1 ตำแหน่ง (ประธานสภาผู้แทนราษฎร)
โดยทันทีที่ผลการประชุมของพรรคเพื่อไทย ถูกเผยแพร่ ได้กลายเป็นเรื่องราวดรามา เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง พรรคก้าวไกล ได้เปิดตัวส่ง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส. พิษณุโลก ในฐานะกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ ลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ก่อนจะมีการแจ้งยกเลิกประชุมร่วมระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ (28 มิ.ย.) ออกไปไม่มีกำหนด
“เพื่อไทย” ยันสูตรเดิม ต้องได้เก้าอี้ประธานสภาฯ
ล่าสุด นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันอีกครั้งว่า ประเด็น 14+1 ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น เป็นข้อเสนอเดิม ที่มีการเจรจากับพรรคก้าวไกล โดยทั้งหมดถือเป็นข้อเสนอ ที่จะใช้เป็นแนวทางในการเจรจา ยังไม่ใช่มติใด ๆ ซึ่งทางพรรคยังคงสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เช่นเดิม
นพ.ชลน่าน ระบุว่า ตอนนี้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่ให้เกิดกรณีฟรีโหวต เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง จะไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 พรรค แต่ประโยชน์จะตกไปอยู่กับกลุ่มมือที่สาม ฉะนั้นพรรคเพื่อไทย จะเสนอหลักการเดิม (14+1) แต่ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุป ก็ควรไปหารือกันระหว่าง 2 พรรค เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน
“แพทองธาร” ปัดตอบปมเก้าอี้ประธานสภาฯ
ส่วนความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และบุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรค เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความเห็นเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ น.ส.แพทองธาร ปฏิเสธให้สัมภาษณ์
เมื่อถามถามถึงความสัมพันธ์ของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ที่เหมือนกำลังจะมีปัญหากันนั้น น.ส.แพรทองธาร พูดเพียงว่า ขอให้สู้ สู้ และแวะมาทานมิ้นต์ช็อก ที่พรรคเพื่อไทยได้นะ
“ก้าวไกล” ลั่นพรรคอันดับ 1 ต้องได้เก้าอี้ประธานสภาฯ
ไปกันที่ท่าทีของพรรคก้าวไกลกันบ้าง นายปดิพัทธ์ สส. พิษณุโลก ในฐานะแคนดิเดตประธานสภาฯ ชี้แจงว่า การเลื่อนพูดคุยระหว่าง 2 พรรคในวันนี้ เป็นการเลื่อน เพื่อรอให้คณะเจรจาจะได้ข้อยุติเท่านั้น เมื่อการพูดคุยระหว่าง 2 พรรคถูกเลื่อน ทำให้การหารือของหัวหน้า 8 พรรคร่วม ในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) ต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน แต่เนื่องจากเงื่อนเวลาบีบคั้นเข้ามา ทั้ง 2 พรรคจึงต้องมีความชัดเจน แต่ก็ต้องให้เวลากับคณะเจรจาด้วย
ผู้สื่อถามว่า เมื่อพรรคเพื่อไทย ต้องการเก้าอี้ประธานสภาฯ ทางพรรคก้าวไกล จะยอมถอยหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคณะเจรจา ที่ต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ก่อนที่จะมีการโหวต เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน อาจมีการทะเลาะเรื่องพิมพ์เขียวบ้าง แต่หากปรับแบบแล้ว ยังไม่พอใจ ก็ยังไม่ต้องสร้าง แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น สุดท้ายก็ต้องสร้าง
เบื้องต้นขอย้ำว่า พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากแผนเปลี่ยนแปลง ก็ค่อยว่ากัน
ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบุคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานสภาฯ นั้น นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ตนเองมีความพร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่ และจะทำงานหนักร่วมกับทุกฝ่าย โดยเชื่อว่า สส. ทุกคนมีวุฒิภาวะ และอาจไม่ต้องให้ความเคารพตนเอง แต่ต้องเชื่อและปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภา ที่ถือเป็นกฎหมาย และเคารพรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นกฎกติการ่วมกันก็พอ
ศึกประธานสภาฯ ไม่จบ อาจทำพลิกขั้ว
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 พรรค ทำให้สถานการณ์เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีโอกาสพลิกแพลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นทั้ง 2 พรรค ต้องมานั่งพูดคุยกัน เพื่อหาทางออก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นหมัดน็อกตั้งแต่ยกแรก และจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล โดยส่วนตัวมองว่า ควรจบปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ได้ภายในวันที่ 3 ก.ค. ก่อนจะลงมติโหวตเลือกประธานสภาฯ ในวันที่ 4 ก.ค. นี้
เตือน “เพื่อไทย” ระวังถูกประณาม
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทยเวลานี้ หากเปรียบเทียบเป็นคำโบราณ ก็เหมือนไม้หลักปักขี้เลน หรือไม้หลักปัก เพราะช่วงที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคอันดับ 1 แต่เมื่อวาน กลับเปลี่ยนท่าที โดยท่าทีกลับกลอก วันนี้พูดอย่าง ส่วนพรุ่งนี้พูดอีกอย่าง ระวังจะถูกประณาม
ส่วนตัวมองว่า พรรคก้าวไกลรู้อยู่เต็มอกว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นเรื่องยากมาก และพรรคเพื่อไทย ก็อ่านเกมขาดว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นจริงได้ที่สุด จึงต้องเอามาให้ได้ โดยสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ไม่ตรงไปตรงมา เริ่มต้นสร้างปัญหาใหม่ และอาจเข้าสู่ทางตันในอนาคต
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35