เช้านี้ที่หมอชิต - ขณะนี้หลายคนคงมีคำถามในใจว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงเรียนหรือระบบการศึกษาบ้านเรา เมื่อโรงเรียนอาจไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ อีกต่อไป เช่นเดียวกับหลายคนที่เริ่มตั้งคำถามว่า การศึกษาอาจไม่ใช่สถานที่สำหรับเรียนรู้อย่างเปิดกว้าง แต่คือการปลูกฝังระบบอำนาจนิยมที่ทำให้ความสร้างสรรค์ไม่เติบโต
เป็นที่น่าตกใจว่าในรอบไม่ถึงหนึ่งเดือนมานี้ เราเห็นข่าวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมากมาย เช่น การใช้ขวานทำร้ายรุ่นน้องจนเสียชีวิต เพราะถูกเพื่อนล้อว่าชกต่อยแพ้และมีปัญหากันมานาน หรือล่าสุด กรณีน้องวัย 15 ปี ถูกเพื่อนบุลลีรูปร่าง จนกินยาเกินขนาดต้องนำส่งโรงพยาบาล ยังมีกรณีของครูที่สั่งเด็กลุกนั่งจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือกรณีของ น้องหยก ที่ถูกตัดชื่อออกจากระบบการศึกษาเพราะใส่ชุดไปรเวตไปเรียนและไม่มีผู้ปกครองมามอบตัว ก็ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งโจทย์ของระบบการศึกษาที่จะต้องจัดการเช่นกัน
เรามีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กับ ครูจุ๊ย กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ซึ่งเคยสัมผัสโลกของการศึกษาในอีกมุมหนึ่งจากการไปเล่าเรียนที่ฟินแลนด์ ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีการศึกษาดีที่สุดในโลก โดยครุจุ๊ยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นั่นทั้งในช่วงมัธยมปลาย และในฐานะนักศึกษาปริญญาโท ทำให้มองเห็นปัญหาและอยากเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ผ่านการผลักดันนโยบายการศึกษา พรรคอนาคตใหม่ เคยเป็น สส.และหมดวาระไปพร้อมกับการยุบพรรค ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ครูจุ๊ยมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนต้องมองให้ครบทั้งวงจร ถ้าจะบอกว่าเป็นเรื่องของโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากปัญหาอาจมีรากฐานมาตั้งแต่เรื่องครอบครัว ไปจนสภาพสังคมที่แวดล้อมเด็กคนหนึ่งด้วย
ครูจุ๊ย อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อปัญหาเกิดขึ้นและเข้าสู่โรงเรียน หลายครั้งปัญหาซับซ้อนและใหญ่เกินกว่าตัวคุณครู ดังนั้นการจัดการจะต้องเป็นความร่วมมือกันหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง จะคิดเป็นแท่งแยกกันทำแบบเดิมไม่ได้ และจากปัญหายิ่งสะท้อนว่า หลายหน่วยงานต้องทำงานหนักกว่าเดิมมากๆแม้งานจะหนักอยู่แล้ว เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือกระทรวงสาธารณสุข เพราะต้องใช้ทักษะและองค์ความรู้คนละแบบกับครูในการดูแล ขณะที่ตัวครูเอง แม้ว่าจะสามารถเสริมทักษะในการจัดการสอนเรื่องการบุลลีให้เด็ก ๆ ได้ แต่ปัญหาใหญ่คือ เรายังไม่มีหลักสูตรเรื่องนี้ให้กับครูมากพอ
ครุจุ๊ย กล่าวว่า ถ้าไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าความรู้สึกไม่ปลอดภัยในโรงเรียน ปัญหาอำนาจนิยม ปัญหาการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งการที่เด็ก ๆ โดนจำกัดเสรีภาพมาก ๆ ก็จะมีผลต่อสภาพจิตใจด้วย อย่างไรก็ตาม ครูจุ๊ย บอกว่า แม้ว่างานนี้จะต้องแก้เป็นงานระยะยาว แต่สามารถเริ่มต้นทำสิ่งที่สำคัญมากได้ทันที นั่นก็คือการเก็บข้อมูลเพื่อให้วางแผนในอนาคตได้
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม