logo เช้านี้ที่หมอชิต

ดร.สติธร วิเคราะห์ศึกชิงบัลลังก์ “ประธานสภาฯ” | ขยายข่าว กับ กาย สวิตต์

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - ท่าทีไม่ยอมรับผลเจรจาของที่ประชุม สส.เพื่อไทย สามารถตีความได้อย่างไร และจะส่งผลอะไรบ้างต่อการเมืองในภาพใหญ่ ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

353 ครั้ง
|
22 มิ.ย. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต - ท่าทีไม่ยอมรับผลเจรจาของที่ประชุม สส.เพื่อไทย สามารถตีความได้อย่างไร และจะส่งผลอะไรบ้างต่อการเมืองในภาพใหญ่ ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า วิเคราะห์ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ว่านี่คือจุดชี้ขาดตั้งรัฐบาลพิธา เพราะถ้าคุยกันไม่ได้ จะส่งผลต่อการโน้มน้าว สว.ในการโหวตเลือก คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย
 
จากตอนแรกที่เหมือนคุยกันลงตัวแล้วเรื่องเก้าอี้ประธานสภาฯ เพราะทั้ง หมอชลน่าน หัวหน้าพรรค, คุณภูมิธรรม และคุณสุทิน รองหัวหน้าพรรค หรือคุณประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ซึ่งก็คือระดับแกนนำพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะยอมถอยเพื่อถอดสลักให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าได้ โดยจะยึดหลักการพรรคอันดับหนึ่งได้ประธานสภาฯ เพื่อไทยได้ 2 เก้าอี้รองประธานสภา แต่หลังการประชุมสัมมนา สส.ของพรรค ดูเหมือนจะใช้วิธีการลงมติพรรค ซึ่งส่วนใหญ่มีท่าทีไม่ยอมยกเก้าอี้นี้ให้ก้าวไกล เป็นบรรยากาศร้อน ๆ ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ในการฟอร์มรัฐบาลใหม่ที่กลับมาเป็นบทสนทนาอีกครั้ง
 
อาจารย์สติธร มีมุมมองในเรื่องนี้ว่า สามารถมองได้ 2 แบบ แบบหนึ่งอาจเป็นปัญหาภายในเพื่อไทยเอง เกี่ยวกับการต่อรองเก้าอี้ในระหว่างที่หลายอย่างยังไม่ลงตัว หรืออีกประเด็นหนึ่งอาจเป็นเพราะเพื่อไทยมองว่า เสียงที่ได้มามีจำนวนพอที่จะกำหนดความเป็นความตายของรัฐบาลพิธาได้ ทำไมจึงต้องยอมก้าวไกลในเรื่องนี้
 
อย่างไรก็ตาม อาจารย์สติธร เชื่อว่าความขัดแย้งรอบนี้มาจากปัจจัยภายในพรรคเพื่อไทยมากกว่า เช่น กลุ่ม สส.ภาคอีสาน ที่มีเสียงค่อนข้างดัง หรือกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งหากมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่ได้มาอย่างลงตัว ก็จะทำให้ปัญหานี้เคลียร์ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่า พรรคเพื่อไทยมีศูนย์อำนาจชัดเจน ถ้าผู้หลักผู้ใหญ่คนมีบารมีที่พรรคให้ความเคารพออกมาสยบ ก็จะทำให้คนในพรรคยอมกันได้
 
ทั้งนี้ อาจารย์สติธร ยังมองด้วยว่า ศึกชิงประธานสภาฯ จะเป็นตัวชี้ขาดในการตั้งรัฐบาลพิธาด้วย เพราะจะส่งผลต่อการตัดสินใจต่อ สว. ที่จะโหวตเลือกคุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
 
อาจารย์สติธร ยังมีมุมมองไปถึงรัฐบาลรักษาการในปัจจุบันด้วยว่า ขณะนี้ทั้งพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ค่อนข้างนิ่ง เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมา ทำให้อยู่ในสภาวะที่ความชอบธรรมอยู่กับพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ทางนั้นก็รู้ดีว่า สุดท้ายแล้วก้าวไกลและเพื่อไทย ไม่ได้ลงรอยกันตลอดในทุกสถานการณ์ หรือเป็นคู่แข่งกันในที อีกทั้งผลการเลือกตั้งที่ออกมายิ่งทำให้เพื่อไทยรู้ว่า ก้าวไกล คือคู่แข่งที่แท้จริงในทางการเมือง
 
ดังนั้น ในสภาวะแบบนี้ จึงนิ่งเพื่อรักษาแนวร่วมของฝั่งตัวเอง รอดูว่า 2 พรรคที่เป็นคู่แข่งกันทางการเมืองจะตั้งรัฐบาลได้จริงหรือไม่ หรือถ้าตั้งได้จะทำงานได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ดังนั้น การพลิกขั้ว หรือการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/B7FCThjU5Ew