“อดิสร” เชื่อ “สส.เพื่อไทย” เกือบหมด ไม่ยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ก้าวไกล

926 ครั้ง

22 มิ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

หมอชลน่าน ยอมรับสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ต้องการให้พรรคเสนอตัวทำหน้าที่ประธานสภาฯ ระบุปัญหาวุ่นวายต้องได้ข้อสรุป ก่อนวันที่ 3 ก.ค. นี้

“หมอชลน่าน” ยันปม “ประธานสภาฯ” ต้องคุยจบในพรรค

อุณหภูมิทางการเมืองยังคงร้อนระอุ สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แม้ผู้บริหารบางคนของพรรคเพื่อไทย เตรียมเปิดทางให้พรรคก้าวไกล เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าว แต่ สส. หลายคนในพรรคเพื่อไทย กลับไม่เห็นด้วย จนมีการอภิปรายดุเดือด ภายในงานสัมมนาของพรรคเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.)

ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะ สส. ขี้นรถเมล์ EV จากที่ทำการพรรค ไปรายงานตัวที่รัฐสภา โดย นพ.ชลน่าน ยอมรับว่า ตอนนี้สมาชิกพรรคส่วนใหญ่ ต้องการให้พรรคเพื่อไทย เสนอทำหน้าที่ตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ฉะนั้น ต้องรอหลังจากการหารือระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

ส่วนกรณี นายอดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อของพรรค ย้ำว่า ต้องให้ความสำคัญกับความรู้สึกของ สส. ในพรรคด้วยนั้น นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า หลักการของพรรคคือ แคร์ความรู้สึกของทุกฝ่าย ทั้งประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง รองลงมาเป็นสมาชิก และ สส. พรรค โดยสมาชิกต้องยึดเสียงข้างมากของพรรค เพื่อหาข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งต้องได้ข้อยุติภายในพรรค ก่อนจะไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล คาดว่าได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 3 ก.ค. นี้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะไม่มีคำว่า ถ้าเกิดขึ้น เพราะต้องมีการพูดคุยให้จบในพรรคเสียก่อน แต่จะไปละเมิดสิทธิ ให้นายสุชาติ สละสิทธิ์เมื่อถูกเสนอชื่อก็ไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ทุกคนยึดมติพรรค

ส่วนกรณีนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ควรเป็นของพรรคอันดับ 3 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง พบว่าพรรคก้าวไกลได้ สส. 151 คน พรรคเพื่อไทย 141 คน และพรรคประชาชาติ 9 คน ซึ่งคณะเจรจาของเพื่อไทยมองว่า พรรคอันดับ 2 และ 3 คะแนนห่างกันมากเกินไป จึงเสนอให้พรรคอันดับ 2 ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน

เชื่อ “สส.เพื่อไทย” เกือบหมด ไม่ยกตำแหน่งประธานสภาฯ

ขณะที่นายอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ฉายเดี่ยวไปรายงานตัว กล่าวย้ำถึงจุดยืนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า สส. พรรคเกือบ 100% ไม่เห็นด้วยที่จะยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล โดยก่อนหน้านี้มีการบอกว่า พรรคก้าวไกล ได้รัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง บวกนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทย สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้รัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง บวกประธานสภาฯ หากเป็นตามนี้ ทุกคนมีความสุข กระทั่งอยู่ ๆ จะมีการยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล ทำให้ สส. หลายคนไม่พอใจ อย่างภาษิตของคนอีสานที่บอกว่า ถ้าเอาพระบวชใหม่ มาเป็นเจ้าอาวาส ถือว่าไม่เหมาะสม แม้ สส. ทุกคนสามารถเป็นประธานสภาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องขออภัยพรรคก้าวไกลด้วย เพราะทั้ง 2 พรรค สูงไล่เลี่ยกัน ส่วนเมื่อวานนี้ ที่มีการพูดพาดพิงถึงพรรคอื่น ก็ต้องขออภัยเช่นกัน

“เสรีพิศุทธ์” เตือนสติก้าวไกล-เพื่อไทย

ขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวเตือนสติพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า หากตกลงกันได้แล้ว แม้จะมีกระแสคัดค้านจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน ก็ขอให้เป็นไปตามที่ตกลงกัน อย่าผิดคำพูด หรือสร้างกระแสอะไร เพราะต้องเห็นใจประชาชนที่อยากได้รัฐบาล เข้ามาบริหารประเทศด้วย

แจงไม่เห็น “พล.อ. ประยุทธ์” เก็บของจากทำเนียบฯ

ไปต่อกันที่กระแสข่าว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เก็บของบางส่วนออกจากห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแล้วนั้น นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็น พล.อ. ประยุทธ์ เก็บของในห้องทำงานเลย แต่เชื่อว่าในทางการเมือง จะมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนอยู่แล้ว และรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ทราบดีว่า มีเวลาทำงานถึงตอนไหน แต่ปัจจุบัน พล.อ. ประยุทธ์ ยังคงทำงาน และเข้าทำเนียบรัฐบาลทุกวัน

เพื่อไทยจี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ย้ายออกจากบ้านหลวง

ต่อเนื่องจากเรื่องเก็บของออกจากทำเนียบฯ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวโจมตี พล.อ. ประยุทธ์ ว่า นอกจากข่าวเก็บของแล้ว อยากถามดัง ๆ ไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ย้ายออกจากบ้านพักหลวงของกองทัพบก ถนนวิภาวดี-รังสิต เพราะหลังจากนี้ก็ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อได้แล้ว ฉะนั้น คงเวลาต้องย้ายออกได้แล้ว พร้อมส่งมอบบ้านหลวงกลับคืน

ฟ้อง “รังสิมันต์” เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท

ปิดท้ายที่เรื่องวุ่น ๆ ระหว่างนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และนายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. ซึ่งเป็นประเด็นต่อเนื่อง จากกรณีที่ฝ่ายแรกอภิปรายพาดพิงนายอุปกิต ปมเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน และยาเสพติด จนเกิดวลีคำว่า สว.ทรงเอ นั้น

ล่าสุด นายรังสิมันต์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กช่วงหนึ่งว่า ถูกนายอุปกิต ฟ้องคดีอาญา ฐานหมิ่นประมาท และคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายอีกครั้ง คราวนี้เป็นเงิน 20 ล้านบาท โดยอ้างเหตุว่า ตนเองยังพูดเกี่ยวกับการกระทำของนายอุปกิต หลังจากถูกฟ้องครั้งแรก ทั้งที่สิ่งที่พูดไป เป็นความไม่ชอบมาพากลในคดี โดยยืนยันว่า พร้อมต่อสู้ทุกคดีที่ถูกฟ้องเข้ามา

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35