ปิดฉาก ป๊อบ บึงสามพัน มิจฉาชีพหลอกขายสินค้าออนไลน์ แล้วไม่ส่งของให้ลูกค้า มีเหยื่อถูกหลอกหลาย 100 ราย ตรวจสอบประวัติพบอาชญากรรมเพียบ
โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่าน เพจ IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว ป๊อบ บึงสามพัน มิจฉาชีพระดับตำนานโกง ที่หลอกขายสินค้าออนไลน์ทุกชนิด ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, กล้องถ่ายรูป, เครื่องโปรเจคเตอร์, ฟิล์มถ่ายรูป, หนังสือนิยายหายาก, เสื้อวงดนตรีต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ก่อเหตุต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันยังคงลอยนวนอยู่ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลาย 100 ราย ความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 เข้าจับกุมตัว นายนพสร จินดารักษ์ หรือ ป๊อบ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ในความผิดฐานฉ้อโกง และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ หมู่ 8 ถนนนิคมสร้างตนเอง ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหา พบว่า ณ ปัจจุบัน มีหมายจับอีก 2 หมายจับ ประกอบด้วย
1) หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ในความผิดฐานฉ้อโกง และนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
2) หมายจับศาลแขวงขอนแก่น ในฐานความผิดเดียวกัน และปัจจุบัน นายนพสร จินดารักษ์ มีชื่อติดอยู่ในแบล็กลิสต์บัญชีคนโกง บุคคลเฝ้าระวัง, บุคคลอันตรายในการหลอกซื้อขายสินค้าทางโลกออนไลน์ จำนวนมาก
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า ตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดิมทีทำงานเป็นพนักงานโรงแรม ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้ย้ายมาอยู่ที่ จ.นนทบุรี โดยหันมาประกอบอาชีพขายของตามตลาดนัดย่านปากเกร็ด แต่เนื่องจากประสบปัญหาขายของขาดทุน จนเงินลงทุนหมด จึงเริ่มคิดนำโทรศัพท์มือถือที่ตนมีไปลองโพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า นพสร จินดารักษ์
โดยขณะนั้นมีผู้สนใจติดต่อซื้อมาหลายคน จึงทักขายให้กับทุกคนที่สนใจ แต่ไม่ส่งสินค้าให้ เห็นว่าได้เงินมากพอสมควร จึงเริ่มขายสินค้าที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น โดยหาภาพถ่ายสินค้าต่าง ๆ มาจากอินเตอร์เน็ต โดยที่ตนไม่มีสินค้าจริง เพื่อมาโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก และกลุ่มต่าง ๆ อีกกว่า 200 กลุ่ม
โดยที่ผ่านมาเคยใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการก่อเหตุ ประกอบด้วย ชื่อบัญชี พงษ์ พัฒน์, ชื่อบัญชี นพสร จินดารักษ์, ชื่อบัญชี นพพร คนฉวย, ชื่อบัญชี Jumu Jimi
ตนเองเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อประมาณเดือนละ 30 ราย มูลค่าความเสียหายแต่ละรายประมาณ 500 ถึง 3,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมในช่วง 6 ปี เป็นเงินมากกว่า 3 ล้านบาท โดยเงินที่ได้มาส่วนใหญ่นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน, เที่ยวเตร่, ยาเสพติด, เลี้ยงแมว
ส่วนประวัติการที่ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2560 ถูกจับกุมในความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ท้องที่ สภ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี
2) ปี 2563 ถูกจับกุมในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่ สน.บุคคโล
ด้าน พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าคดีนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ถือว่าเป็นคนร้ายโครตโกง โกงทุกอย่าง ร่วม สร้างความเดือดร้อน เบื่อหน่ายกับคนหากินสุจริต
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35