ช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ เกิดเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ 5 คน ใช้รถเก๋ง 2 คัน อุ้มชายอายุ 40 ปี ขึ้นรถ ใช้ปืนขู่ฆ่า แต่ว่าชายคนดังกล่าว ร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่ตั้งด่านตรวจ วันนี้ ตำรวจสอบ 5 ผู้ต้องหา แต่ไม่ยอมให้การ ขณะที่ตรวจสอบประวัติคนที่ถูกอุ้ม พบว่าเคยไปก่อเหตุอุ้ม 3 พ่อแม่ลูกที่จังหวัดเลยเมื่อปี 2561 ไปดูภาพวงจรปิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน
จากภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่ง ถูกชายฉกรรจ์ 5 คน บุกอุ้มระหว่างนั่งรับประทานอาหาร ย่านร่มเกล้า ซึ่งเวลาที่ปรากฏในวงจรปิด คือ 4 ทุ่ม 50 นาที
จากนั้นในเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ระหว่างที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งด่านตรวจแอลกอฮลล์อยู่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ถนนร่มเกล้า ปรากฏว่า มีชายคนหนึ่งตะโกนออกมาจากรถยนต์เก๋ง เชฟโรเลต รุ่นโซนิค สีขาว ทะเบียน 2 กก 9040 กรุงเทพมหานคร เพื่อขอความช่วยเหลือ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา ที่อยู่ภายในรถเก๋งเชฟโรเลต และรถเก๋งโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ทะเบียน 8 กก 2881 กรุงเทพมหานคร ซึ่งขับตามกันมา ได้ผู้ต้องหารวม 5 คน และน่าตกใจเมื่อตรวจค้นภายในรถทั้ง 2 คัน พบอาวุธปืน รวม 6 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 61 นัด
ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายนุกูล อายุ 41 ปี ,นายมนตรี อายุ 37 ปี ,นายวิษณุ อายุ 33 ปี ,นายเอกพงษ์ อายุ 37 ปี , และนายอาทิตย์ อายุ 41 ปี ส่วนคนที่ถูกอุ้มมาในรถที่ขอความช่วยเหลือ คือนายอุเทน อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นคนที่ถูกอุ้มตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิดข้างต้น
นายอุเทน ให้การกับตำรวจที่ช่วยเหลือเพียงแค่ว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ย่านร่มเกล้า ระหว่างนั้น ได้ยินเสียงคนร้องให้หลบๆ ชายคนร้าย 2 คน ชักอาวุธปืนออกมา เดินตรงมาที่ตน ขณะนั้นยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพื่อนเข้ามาพยายามช่วยห้าม แต่กลุ่มผู้ต้องหา ก็ได้ลากตัวไปบนรถ โดยผู้ต้องหา 1 ใน 5 เป็นคนที่ตนรู้จักเคยเป็นพี่เป็นน้องกันมาก่อน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรรุนแรง
แต่กลุ่มผู้ต้องหากลับบอกว่า จะนำตนไปฆ่าให้ตาย ตอนนั้นคิดว่า ต้องตายแน่เพราะถูกอุ้มลากขึ้นไปบนรถ กระทั่งมาเจอด่านตรวจจึงร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจทำให้รอดมาได้
ตำรวจที่ตั้งด่านเมื่อคืน พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการจราจร บอกว่า การสอบสวนทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหาให้การตรงกันว่า ต่างรู้จักกัน โดยผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกาย แล้วพาขึ้นรถมา แต่ทั้งหมดยังไม่ยอมให้การในรายละเอียด เพียงแต่บอกว่ารู้จักกันแต่มีการเขม่นกันเรื่องคำพูดจาที่ไม่เข้าหู ตำรวจจราจร จึงส่งผู้ต้องหาให้ตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ คือ สน.มีนบุรี ดำเนินคดี
มาช่วงเช้าวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 มีคำสั่งให้รวมคดีนี้ให้ตำรวจ สน.มีนบุรี รับผิดชอบ หลังพบว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 สน. คือ มีนบุรี และร่มเกล้า แต่ที่แปลกคือจากการสอบปากคำ ทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย ต่างคนต่างไม่ยอมเปิดเผยถึงมูลเหตุที่เกิดขึ้น โดย 1 ใน 5 ผู้ก่อเหตุพบว่ารู้จักกับผู้เสียหาย เคยนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันมาก่อน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่ามูลเหตุเรื่องที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจสีเทา หรือผิดกฎหมาย
ในผู้ต้องหา 5 คน มี 2 คน ที่เป็นพี่น้องกัน คือ นายอาทิตย์ และนายวิษณุ ซึ่งวันนี้ แม่ของทั้ง 2 คน มารอเยี่ยมลูกชาย และรอประกันตัว ผู้เป็นแม่ บอกว่า ลูกชายทั้ง 2 คน ทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านอาหาร และอู่ซ่อมรถยนต์ ไม่ทราบว่าเคยมีปัญหากับใคร ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน มี 1 คนที่เป็นหลาน อีก 2 คน เป็นคนรู้จักกัน ส่วนคนที่โดนอุ้ม ที่ชื่ออุเทน ผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน สำหรับรถคันที่นำมาก่อเหตุ รถยนต์เชฟโรเล็ตสีขาวเป็นของลูกชาย
ในส่วนของผู้เสียหาย คือนายอุเทน นั้น ไม่ให้ข้อมูลใดเพิ่มเติมแก่ตำรวจ นอกจากข้อมูลที่ให้ไว้เมื่อคืน ตำรวจจึงตรวจสอบชื่อจากทะเบียนประวัติ พบว่า นายอุเทน เคยก่อเหตุอุ้ม 3 พ่อแม่ลูก ที่ตำบลนาอาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย เมื่อปี 2561
เมื่อตรวจสอบคดีนี้ย้อนหลังไปที่ พ.ต.ท.ดำรงค์ วงษ์ลืออำนาจ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองเลย ซึ่งทำคดีนี้ บอกว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นนายอุเทนและพวกรวม 4 คน ไปติดตามรถที่พ่อแม่ลูกเช่าซื้อจากไฟแนนซ์ แล้วไม แต่ใช้วิธีอุ้ม มีปืนข่มขู่ ไปเจรจาในรถ แล้วยึดรถไป ซึ่งตอนนั้นโดนคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งตอนนั้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องต่ออัยการไปแล้ว แต่ว่าไม่ทราบผลคดีในชั้นศาลออกมาอย่างไร
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35