ลูกชายวัย 12 ปี ถูกครูสั่งลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกระดูกแตก จ.ลำพูน | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

248 ครั้ง

20 มิ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

พ่อออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน โดยลูกชายอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป6 ถูกครูลงโทษ ด้วยการสั่งลุกนั่ง 150 ครั้ง จนลูกชายกระดูกขาแตก ต้องรักษาตัวถึง 5 เดือน ขณะนี้อาการก็ยังไม่ดีขึ้น อดเรียนต่อ พอสอบถามไปที่โรงเรียนถึงกับช็อกกลับคำตอบ ทางโรงเรียนแจ้งว่า “ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนแล้ว”

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านโป่งแดง ต.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ว่ามีครอบครัวเด็กป่วยจากโรคกระดูกมานาน ใช้ไม้ค้ำยันตลอดระยะเวลา 5 เดือน รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ตอนนี้อาการหนักมาก ครอบครัวต้องนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำพูน อย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับ นายพงษ์ (นามสมมติ) ผู้เป็นพ่อ ได้นำ ด.ช.ตุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ลูกชาย เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลลำพูน รักษาตัวที่ห้องรวม โรคกระดูกชั้น 1 โรงพยาบาลลำพูน

จากการสอบถาม นายพงษ์ บอกว่า น้องตุ้ย อายุ 12 ปี น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ก่อนหน้านั้นเรียนอยู่ ป.6 โรงเรียนในหมู่บ้าน ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกแตกร้าวและอักเสบที่ขาซ้าย สาเหตุเกิดจาก ถูกครูทำโทษ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย น้องตุ้ยทำผิด คือ ลืมเอาหน้ากากอนามัยมาโรงเรียน ถูกทำโทษครั้งแรกตอนเช้า สั่งให้ลุกนั่ง 50 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกน้องตุ้ย บอกว่า เริ่มเจ็บขาแล้ว ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น.ต้องเข้าเรียนในช่วงบ่าย แต่น้องตุ้ยกับเพื่อน ๆ เข้าห้องเรียนช้า เพราะไปเล่นฟุตบอล ครูก็ลงโทษอีกให้ลุกนั่งพร้อมกับเพื่อน ๆ ทั้งห้องอีกคนละ 100 ครั้ง

ต่อมาน้องตุ้ย กลับบ้านก็รู้ตัวว่าเจ็บขามาก และเพื่อนคนอื่นๆ ก็เจ็บปวดที่ขาเช่นกัน พอวันแรกไม่กล้าบอกพ่อ เพราะกลัวครู และกลัวที่จะไปหาหมอ วันต่อมาก็ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เพราะอาการหนักมาก เดินไม่ได้ จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลทุ่งหัวช้าง ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา และได้ลาโรงเรียน ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน และวันนี้ลูกชายก็ไม่ได้เรียนหนังสือต่อในระดับชั้นมัธยม 1 อีกด้วย

จากนั้น ลูกตนรักษาตัวที่บ้านสลับกับมารักษาที่โรงพยาบาลตลอดมา ทางครอบครัวก็แจ้งให้ครูที่ลงโทษลูกทราบ ตอนนั้นลูกยังเรียนไม่จบ ป.6 ตนได้พูดคุยกับครู และทางโรงเรียนก็ได้มอบเงินมา 1 หมื่นบาท จากนั้นสำนักงานเขตการศึกษา ก็นำเงินมามอบให้อีก 3 พันบาท แล้วก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออีกเลย

วันนี้อาการลูกหนักขึ้น จึงไปที่ โรงพยาบาลทุ่งหัวช้าง คุณหมอเห็นว่าอาการหนัก และรักษาตัวมาระยะเวลานานแล้ว แต่ไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลลำพูน โดยผลการตรวจกระดูกก็พบว่า กระดูกร้าวและอักเสบ แผลติดเชื้อเพิ่มอีก ลูกต้องนอนโรงพยาบาลรอดูอาการว่าจะต้องผ่าตัดหรือไม่

ตอนนี้ตนลำบากมาก เพราะไม่มีรายได้ ต้องเฝ้าลูกตลอด และลูกก็เป็นคนกลัวหมอ สาเหตุที่กระดูกแตกร้าวครั้งนี้ อาจจะมาจากสาเหตุที่ตัวอ้วน น้ำหนักมากถึง 80 กิโลกรัม และเมื่อเจ็บขาในครั้งแรกก็ไม่ยอมบอก เพราะกลัวครูอีกด้วย ล่าสุดตนประสานไปที่โรงเรียนถึงอาการของลูก ก็ได้รับคำตอบมาว่า “วันนี้น้องตุ้ย ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนแล้ว”

นายพงษ์ กล่าวต่อว่า ฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย เพราะตนหมดเงินรักษาไปประมาณ เดือนละ 1 หมื่นบาท รวมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มาถึงเดือนนี้ รวมประมาณ 5 เดือน หมดเงินไปประมาณห้าหมื่นบาทแล้ว

ทางด้านน้องตุ้ย นามสมมุติ เด็กที่ถูกทำโทษ เล่าว่า ตนเองกับเพื่อนถูกลงโทษเนื่องจากเข้าห้องเรียนช้า ครูสั่งลงโทษ 100 ครั้ง เพื่อนปวดขามาก แต่เพื่อนหายไว เนื่องจากเพื่อนตัวเล็ก ส่วนตนเองตัวใหญ่มีนำหนักตัวเยอะ ทำให้ยังไม่หาย ตนเองพยายามช่วยเหลือตัวเองมาตลอด พยายามลุกนั่งเอง ไม่อยากไปหาหมอ แต่ก็ทนไม่ไหว เพราะตอนนี้เจ็บหนักมาก

ล่าสุดเมื่อเช้านี้ (20 มิ.ย.) นายจรัล มณีจันสุข นายอำเภอทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อติดตามกรณีดังกล่าวโดยมีนาย บัณฑิต กันธิวัง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน ให้การชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ให้ทราบว่า ที่ผ่านมาทางคุณครูที่เกี่ยวข้องและโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามอาการเด็กและนำเด็กไปหาหมอ รวมถึงมอบเงินช่วยเหลือไม่ได้ละเลยเด็กตามที่เป็นข่าว ตนเองเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนนี้เอง แต่ก็ทราบเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะทางเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 2 ได้กำชับให้ติดตามกรณีดังกล่าว

เท่าที่ทราบคือเหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 เด็กถูกลงโทษ และวันที่ 10 เด็กมาเรียนตามปกติ พอวันที่ 11 เด็กก็ยังขี่รถจักรยานยนต์มาสอบโอเน็ตได้ปกติ จนวันจันทร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์เด็กไม่มาโรงเรียนเพราะไม่สบาย จากนั้นเด็กก็ไม่มาโรงเรียนอีกเลย

ครูจึงโทรไปสอบถาม และไปเยี่ยมที่บ้าน และก็พาเด็กไปหาหมอเพราะปวดเข่าซ้าย หมอให้ยาแก้ปวดมารักษาตัวที่บ้าน จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้ปกครองถึงมาบอกว่าสาเหตุที่เด็กปวดขามาจากการที่ครูสั่งทำโทษให้ลุกนั่ง ซึ่งครูก็ยังไปเยี่ยมและติดตามอาการเด็กเรื่อยมา ครูยังไปผูกข้อมือให้เด็กและขอขมาเจ้าที่ ตามความเชื่อของโบราณ

ต่อมาทางครูก็รวบรวมเงินกันได้ประมาณ10,000บาทและนำไปมอบให้กับครอบครัวของเด็กเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และวันที่ 27 กุมภาพันธ์สำนักงานเขตพื้นที่ก็มอบเงินช่วยเหลืออีก 3,000 บาท วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 66 ครูและครอบครัวก็พาเด็กไปหาหมอที่โรงพยาบาลทุ่งหัวช้าง และหมอบอกว่าเด็กอาการหนักต้องให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ทางครอบครัวไม่ให้เด็กนอน เพราะไม่สะดวก และครูก็คอยติดตามอาการเด็กมาตลอด และเด็กก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสลับกับรักษาตัวที่บ้าน

ตอนนี้ทางโรงเรียนกำลังหารือเพื่อช่วยเหลือเด็กเช่นกันและจะเข้าไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาล และที่ผ่านมาทางโรงเรียนและครูก็ไม่เคยละเลยเด็กคอยติดตามอาการเด็กมาโดยตลอดและสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือโพกัสในเรื่องการช่วยเด็กก่อน

ด้านนายนพดล มังสังข์ อายุ30ปี ครูที่สั่งทำโทษน้องตุ้ย เปิดเผยว่า การลงโทษเด็กไม่ได้เยอะมากตามที่เป็นข่าวเช้า 20-30 เพราะไม่ใสแมสบ่ายแค่ 20 ครั้ง แล้วก็มอบหมาให้เก็บขยะและเด็กส่วนใหญ่บางคนทำไหวแค่ไหนก็เท่านั้น ให้รู้แค่ว่าเขาทำผิด ในวันรุ่งขึ้นน้องตุ้ยเขาก็มาโรงเรียนตามปกติถ้าดูจากภาพกล้องวงจรปิดตอนที่พักเที่ยงจะเห็นน้องเขาวิ่งได้อยู่ หลังจากที่เกิดเหตุก็ดูแลดูทั้งส่งข้าวเที่ยงให้ พาไปส่งโรงพยาบาล เอาข้อสอบไปสอบถึงที่บ้าน เพื่อให้เด็กจบการศึกษาให้ได้

จนล่าสุดผุ้ปกครองมาขอให้ไปส่งโรงพยาบาลเพราะเด็กลุกไม่ได้ จึงพาไปหมาหมอ จนทราบว่าเด็กกระดูกแตกหักซึ่งตนเองก็ได้ถามหมอว่าการให้เด็กลุกนั่งจะทำให้เด็กกระดูกแตกหักได้หรือไม่ซึ่งหมอก็บอกว่าเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นกระดูกขาชิ้นใหญ่แข็งแรงมาก ต้องโดนกระแทกอย่างแรงเท่านั้น ซึ่งผู้ปกครองก็ยืนยันว่าเด็กไม่เคยไปกระแทกหรือรถล้มแต่อย่างใด จนวันที่ 14 มิถุนายน ตนได้พาไปทำเอ็มอาร์ไอที่เชียงใหม่

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35