เปิดวงจรปิด ตำรวจอุ้ม “นายเป้” พบผู้การชลบุรี ปมวลีเด็ด “รักผู้การฯ เท่าไร เขียนมา”

315 ครั้ง

19 มิ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เปิดภาพวงจรปิดวินาทีตำรวจอุ้มนายเป้ ผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บการพนัน จากบ้านพักไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนถูกเรียกรับเงิน โดยมีวลีเด็ด “เป้นักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา” ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่า 10 ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาครบแล้ว ขณะที่นายบอย หนึ่งในพลเรือนแก๊งผู้ต้องหา ติดต่อมอบตัว

นี่เป็นภาพวงจรปิดที่ช่อง 7HD ได้มา ซึ่งเป็นภาพที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี สามารถบันทึกภาพขณะที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส. จังหวัดชลบุรี ควบคุมตัวนายเป้ ผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน เข้าพบกับ พลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจากนายเป้ โดยมีนายต้นและนายบอย เป็นคนต่อรอง และพูดกับนายเป้ว่า “รักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา”

จากภาพวงจรปิด สามารถบันทึกภาพขณะนำตัวผู้ต้องหาเข้ามาภายในอาคารตั้งแต่ชั้น 1 มีตำรวจคุมตัวนายเป้ สวมเสื้อสีขาว ก่อนถูกพาขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงานของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ในเวลา 18.51 นาที ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกัน ที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกลุ่มภายในบ้านพักย่านคลองสามวา

ขณะที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงควาคืบหน้าคดีว่า มีหลักฐานเอาผิดตำรวจทั้งหมด 10 คน เพิ่มมาจากเดิม 2 คน เป็นระดับชั้นประทวน และรองสารวัตร ในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้งหมดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เมื่อวานนี้ และสอบปากคำตลอดทั้งคืน ซึ่งการสอบปากคำ เกินกว่าครึ่งให้การรับสารภาพ และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

ส่วน พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ยังปฏิเสธให้การกับพนักงานสอบสวน แต่จะเขียนรายงานคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 5 วัน ขณะที่พลเรือน 3 คนประกอบไปด้วย นายต้น นายบอย และนางสาวลัดดาวัลย์ ได้ออกหมายจับทั้งหมด เบื้องต้นได้รับการประสานจากนายบอยว่าจะเข้ามอบตัว ซึ่งถ้าหากไม่เข้ามอบตัว ตำรวจก็ติดตามจับกุมตามหมายจับ ขณะนี้ทราบว่า อยู่ในประเทศสิงคโปร์

ส่วนนายต้นทราบว่าอยู่ในประเทศกัมพูชา ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ ขณะที่นางสาวลัดดาวัลย์ ทราบว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ บอกด้วยว่า พบตำรวจและพลเรือน เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก เชื่อมโยงในลักษณะเป็นคนที่ร่วมกันทำเอกสารและร่วมกันวางแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนเงิน 140 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า เงินไปอยู่ตรงไหนบ้างอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเชิญตัวนายเป้ เอามาส่งปากคำเพิ่มเติม เพราะจะเป็นคนที่รู้ว่ามอบเงินให้กับใครบ้าง

ในส่วนของการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งพบความผิดปกติในขั้นตอนของการดำเนินคดี เนื่องจากเข้าจับกุมในพื้นที่ สน.คันนายาว แต่ชุดจับกุมไม่ส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนในพื้นที่แจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่กรณีนี้เป็นการลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่มีการส่งมอบผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนคันนายาวดำเนินคดี

ซึ่งไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการจับกุม ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีการตระเตรียมเพิกถอนหมายจับนายเป้ หลังจากมีการตกลงเรียกรับทรัพย์สิน แต่ยังไม่พบว่ามีการเซ็นเพิกถอนหมายจับ จึงต้องขอตรวจสอบในกรณีนี้ก่อน โดยบ่ายวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมหารือความตืบหน้าทางคดีอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นายวีระ หรือ บอย พลเรือนที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาร่วมรีดเงินกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการตรวจสอบ พบว่า มีการเดินทางออกนอกประเทศไปจริง ซึ่งมีการเดินทางออกทางช่องทางปกติก่อนที่จะมีหมายจับลงในระบบ

โดยเดินทางไปตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ และได้รายงานไปยัง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ให้ทราบแล้ว อย่างไรก็ตามในรายละเอียดทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์จะเป็นผู้ให้ข้อมูล ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายวีระ ได้เดินทางออกนอกประเทศผ่านด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีปลายทางไปที่ประเทศสิงคโปร์

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งเดินทางพร้อม นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ไปที่ศาลอาญา รัชดา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในประเด็นนี้ว่า ตามปกติแล้ว ไม่มีโจรที่ไหนอยากไปมีเรื่องกับตำรวจ แต่เหตุการณ์นี้คงจะมากเกินไป มีความรักมากเกินไป และแค้นมาก จนทำให้โจรต้องมาแจ้งจับตำรวจ เหมือนสมัยที่ตนช่วงที่ทำกิจการอาบอบนวด และออกมาเปิดเผยตำรวจที่เรียกรับเงิน ก็เพราะว่า ตัวเลขที่เรียกมามากเกินไป ส่วนกรณีของเป้ อาจจะแตกต่างตรงที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากถูกรีดเงินจำนวนมาก และต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไม่มีทางออก และตัดสินใจออกมาเปิดโปง

สำหรับตัวละครสำคัญ อยู่ที่คนชื่อบอย แหล่งข่าวตนรายงานว่า จะมามอบตัวช่วงบ่ายของวันนี้ ความสำคัญของบอย เป็นผู้เจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา ถือว่าเป็นตัวละครสำคัญ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงตั้งแต่สมัยของ หลงจู๊ สมชาย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมาก คิดว่าถ้ามีการมอบตัว น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจสีเทาของฝั่งตะวันออก เพราะบอย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน ทำให้บอย มีบทบาท ในการรีดเงินต่าง ๆ และมีความเป็นไปได้ที่บอย น่าจะมีเส้นสายมากกว่า นายต้น ซึ่งเป็นสองคนที่เกี่ยวกับการรีดทรัพย์

ส่วนที่ตนบอกให้จับตาดูให้ดี เพราะตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ลงตัว ในส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ถือว่า เป็นหมากตัวหนึ่ง หากจะกระทำการเอง ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะความรู้ความสามารถอาจจะไม่พอ เรื่องนี้ตนจึงคิดว่ามีคนที่ใหญ่กว่านั้นรู้เรื่องมากกว่า ส่วนวลี “เป้รักผู้การเท่าไร ให้เป้เขียนมา” เป็นคำพูดที่มีการร่างบทมาก่อน ส่วนผู้การฯ จะเป็นคนพูดเอง หรือไม่ตนไม่ขอพูด

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า การที่ผู้ต้องหาอย่างเป้ มาแจ้งความตำรวจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด ถ้าโจรไม่ได้ถูกบีบขนาดนั้น คงจะไม่กล้าที่จะมาแจ้งความตำรวจ เกมนี้ที่มองเห็นอาจจะมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น ในระยะเวลาที่ไม่นาน ที่จะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งทุกคน ก็จะต้องแสดงผลงาน ส่วนตนเองรู้มากกว่านั้น แต่พูดตรง ๆ ว่า ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย ไม่ใช่เรื่องของตน ไม่ใช่ศึกของตน

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35