เลขาธิการฯ กกต.แถลงมติที่ประชุม มีการประกาศรับรอง สส.ทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อครบ 500 คน โดยให้มารายงานตัว ระหว่างวันที่ 20-24 มิ.ย.นี้
กกต.รับรอง “สส.” ครบ 500 คน
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการฯ กกต.แถลงผลการประชุมว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง สส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่า การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่
โดยจากการตรวจสอบทั้งหมด และพิจารณาแล้วเห็นว่า ให้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และบัญชีรายชื่อครบ 100 คน ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการรับรอง ให้มารับหนังสือได้ในวันที่ 20-24 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
ตำแหน่ง “ประธานสภาฯ” ชัดเจนสัปดาห์นี้
ส่วนประเด็นที่หลายคนติดตามมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) มีข่าวหลุดออกมาว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ จะเป็นโควต้าของพรรคก้าวไกล ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 เก้าอี้ เป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น
ล่าสุด นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล คาดการณ์ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ จะได้ข้อยุติในสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องขอบคุณแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้เกิดความชัดเจน และเตรียมเข้าไปหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อยุติร่วมกัน ส่วนจะเป็นใคร ต้องพูดคุยกันเป็นการภายในเสียก่อน
ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ จะยังไม่มีการหารือในที่ประชุมหัวหน้าพรรคจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ แต่คนที่จะเป็นรัฐมนตรี น่าจะอยู่ในคณะทำงานเปลี่ยนผ่านแต่ละด้าน โดจะพูดคุยอย่างเป็นทางการ หลังจากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว
ยัน “เพื่อไทย” สนับสนุน “พิธา” เป็นนายกฯ
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล เพราะมีสัญญาณว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังคงสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีตามเดิม
จี้ กกต.เร่งไต่สวนปมหุ้นไอทีวี
ไปกันที่ประเด็นหุ้นไอทีวีของนายพิธา นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา แสดงความเห็นบางช่วงผ่านเฟซบุ๊กว่า ก่อนที่นายพิธา โอนหุ้นให้แก่ญาติ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ไม่ได้ระบุว่า เป็นการโอนในฐานะผู้จัดการมรดก ฉะนั้นนายพิธา ถือเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวี ซึ่งอาจเป็นผู้ถือหุ้นคนเดียว หรือถือหุ้นร่วมกับบุคคลอื่น แต่ถือเป็นผู้ถือหุ้นอยู่นั่นเอง
ข้อเท็จจริงมีเอกสารเป็นพยานหลักฐาน ที่มีการยื่น กกต.แล้ว ดำเนินการไต่สวน เพื่อพิจารณาจะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเลือกตั้ง มาตรา 151 หรือไม่ ดังนั้น กกต.ต้องรีบดำเนินการไต่สวน และยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด
ร้องปัดทิ้งหลักฐาน “เรืองไกร” เอาผิด “พิธา”
ปิดท้ายที่นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อคัดค้านกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งหลักฐานให้ตรวจสอบการถือครอบครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา
โดยนายรัชพล ขอให้พิจารณา 6 ประเด็น ประกอบด้วย
1. คัดค้านเอกสารของนายเรืองไกร เรื่องบันทึกการประชุมงบการเงิน เพราะเอกสารขาดความน่าเชื่อถือ
2. ขอให้พิจารณาชะลอการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 151 ต่อนายพิธา
3. ขอให้พิจารณาเรียกนายคิมห์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อชี้แจงเอกสารงบการเงิน ประกอบกิจการไอทีวี
4. พิจารณาขอข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา จากทาง ป.ป.ช.
5. ขอให้ กกต.แจ้งความเอาผิดนายเรืองไกร กรณีเอกสารบันทึกการประชุม และคลิปเสียงไม่ตรงกัน
6. กกต.ควรนำกรณีการถือหุ้นไอทีวี ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35