“พิธา” เดินสายขอบคุณประชาชนภาคเหนือ หลังเป็นพลังเสียงสำคัญ ทำชนะเลือกตั้ง ยืนยันจะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ทุกคน แต่วอนแฟนคลับอย่าเพิ่งเบื่อการเมือง ถ้าเบื่อเมื่อไร อาจแพ้ทันที
“พิธา” ชี้ผู้มีอำนาจทำให้การเมืองสกปรก หวังพลิกชนะ
เริ่มกันที่บรรยากาศที่จังหวัดลำปาง ชาวบ้านจำนวนมาก แห่ไปต้อนรับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เดินสายขอบคุณประชาชนในจังหวัดภาคเหนือ โดยมีการเข้าสักการะพระ ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง พร้อมเปิดเวทีปราศรัย
โดยนายพิธา กล่าวว่า ไม่เคยมีความหวังกับบ้านเมืองไทยเท่ากับตอนนี้มาก่อน เพราะประชาชนทุกคนได้ทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าร่วมมือกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยงานยังไม่จบ และเพิ่งครบรอบ 1 เดือน หลังจากเลือกตั้งเท่านั้น เมื่อตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะรับใช้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทั้งคนที่เลือกพรรคก้าวไกล และพรรคอื่น ๆ
แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ทุกคนเบื่อการเมือง เพราะถ้าเบื่อเมื่อไหร่ พวกเขาจะชนะทันที ซึ่งเป็นกุศโลบายของผู้มีอำนาจ ที่พยายามทำให้การเมืองสกปรกที่สุด และน่าเบื่อที่สุด
นายพิธา ยังกล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดลำปางว่า เป็นเมืองผู้สูงอายุ ฉะนั้นต้องสร้างเศรษฐกิจสีขาว เพื่อมารองรับสังคมสูงวัย ถ้าสร้างเศรษฐกิจสีขาวที่ลำปางได้ ก็แก้ปัญหาสังคมสูงวัยทั้งประเทศไทยได้แน่นอน
กกต.ไขปมร้อน “นายกฯ” ต้องเป็น สส.หรือไม่
มากันที่ประเด็นดรามาวิวาทะระหว่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ตอบคำถามเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีลักษณะต้องห้ามการเป็น สส. รายชื่อแคนดิเดตคนนั้น จะไม่สามารถนำไปโหวตได้ แม้คดียังอยู่ระหว่างพิจารณา ไม่มีคำตัดสิน ก็ไม่สามารถนำรายชื่อนั้น ไปโหวตนายกรัฐมนตรีได้เหมือนกัน เพราะเมื่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว จะเข้าไปทำหน้าที่ไม่ได้
ขณะที่นายพิธา มองว่า ความเห็นของนายวิษณุ น่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อน และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับมาตรา 151 ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่กระบวนการโหวตเลือกตนเอง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้น
ล่าสุด หลังเกิดดรามาเพียงชั่วข้ามคืน วันนี้ (14 มิ.ย.) สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีประกาศไขข้อข้องใจ เรื่องนายกรัฐมนตรี ต้องเป็น สส.หรือไม่ โดยตอบคำถามว่า “นายกรัฐมนตรี จะเป็น สส.หรือไม่ก็ได้”
โดยระหว่าง 5 ปีแรก นับตั้งแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรก ให้รัฐสภานั้น ให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ภายหลังจากพ้น 5 ปีแรกไปแล้ว นายกรัฐมนตรี ต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ
แจง “พิธา” แนบคำสั่งศาลเป็นผู้จัดการมรดกหุ้นไอทีวี
ส่วนประเด็นถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นเดิม โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง สส.เมื่อปี 2562 พบการถือหุ้นไอทีวี โดยมีการแนบเอกสารคำสั่งศาลว่า “เป็นผู้จัดการมรดก” มาด้วย
แต่จะเป็นผู้จัดการมรดก โดยศาลสั่ง หรือไม่ตั้งใจจะถือหุ้นไอทีวีตั้งแต่ต้นนั้น ถ้าเป็นเรื่องเจตนา ต้องไปตรวจสอบกัน ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน หลังพ้นตำแหน่ง สส.นั้น นายพิธา ยังไม่ได้ยื่นมาให้ ซึ่งยังคงเหลือกรอบเวลายื่นได้ถึงวันที่ 18 มิ.ย.นี้
“สมชัย” โพสต์ “พิธา” โอนหุ้นไอทีวี ไม่ใช่สละมรดก
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแนบเอกสารที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีนายพิธา โอนหุ้นไอทีวีให้ญาติ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. โดยนายสมชัย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า การมีหลักฐานว่า นายพิธา โอนหุ้นให้ญาติ ซึ่งเกิดขึ้นหลังวันรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นการวินิจฉัยค่อนข้างชัดเจนว่า นายพิธา มีหุ้นอยู่ในมือจริง ไม่ใช่การสละมรดก จึงเหลือประเด็นเดียวในการต่อสู้ คือ “ไอทีวี” ยังเป็นสื่อหรือไม่ และเป็นสื่อมาโดยตลอดหรือไม่
“แพทองธาร” ยันไม่มีพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อประเด็น “หุ้นไอทีวี” ยังไม่รู้จะจบลงยังไง ทำให้ใครหลายคนเฝ้าจับตาการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือไม่ โดยเรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันให้แน่น และต้องเคารพเสียงของประชาชน
และขอย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีแผนอะไรแอบแฝง หรือดีลกับพรรคอื่นไว้ ส่วนตัวขอส่งกำลังให้ให้นายพิธา ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับไทยนั้น ขอชี้แจงว่า ครอบครัวไม่ได้มีคำสั่งห้ามกลับ ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้
แย้ม “ประวิตร” นั่งนายกฯ หาก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้
ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กบางช่วง กรณีถ้าพรรคก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ว่า ตอนนี้สถานการณ์คับขัน มี 6 สว.โดยตำแหน่ง และ สว.ในสายข้าราชการ รวม 66 คน แสดงท่าทีไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใด สว.ที่มาจากการเลือกตั้ง 50 คน จะโหวตให้พรรคเพื่อไทย หรือภูมิใจไทย ส่วนพลังประชารัฐ วางตัวเป็นขั้วกลาง
ถ้าก้าวไกลไม่ได้รับความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อไทย มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล สภาพจึงบังคับให้ต้องเสนอ “ลุงป้อม” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่คาดการณ์ไว้ เพื่อเดินหน้ายุทธศาสตร์ก้าวข้ามความขัดแย้ง
อ้างหลุดเอกสาร กกต.ยังไม่รับรอง 71 เขตเลือกตั้ง
ปิดท้ายที่โลกโซเชียล มีการเผยแพร่เอกสารอ้างว่า เป็นเอกสารของ กกต.เพื่อประกาศผลรับรองการเลือกตั้ง โดยเนื้อหาในเอกสารพบว่า มีการรับรองผลการเลือกตั้ง สส.ทั้งสิ้น 329 คน และไม่รับรอง 71 คน เพราะมีข้อร้องเรียนคัดค้าน ที่ต้องตรวจสอบ
หนึ่งในเขตที่น่าสนใจ คือ เขต 28 กรุงเทพมหานคร ที่ทาง “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก จากพรรคก้าวไกล สามารถพลิกเอาชนะนายวัน อยู่บำรุง สส.เก่า จากพรรคเพื่อไทยได้ โดย “ไอซ์ รักชนก” ยังไม่ได้รับการรับรอง เพราะมีเรื่องคัดค้าน ขณะที่ทีมข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงจาก กกต.แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35