หนุ่มปวดหัว หมอจับฉีดยาแก้ปวด กลับมาพักที่บ้านอาการปวดหัวหายแล้ว แต่หัวจะปวดเพราะอยู่ดี ๆ ตาล็อก ขยับไม่ได้ มองไม่ชัดเห็นภาพซ้อน ทุกวันนี้ใช้ชีวิตลำบาก เดินแทบไม่ได้ ทำงานไม่ได้ เนื่องจากเป็นพนักงานขับรถ หวั่นพิการตาบอด กลัวถูกไล่ออกจากงาน
วันที่ 16 มิ.ย. 66 คุณนพดล ภักดีนอก (เกม) ผู้ป่วย เล่าว่า ตนมีอาการปวดหัวในขณะที่มีนัดหมอพอดี เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโรคความดันและโรคหอบ หลังจากฉีดยาระงับอาการปวดหัวจึงกลับไปนอนพักที่บ้าน ตื่นขึ้นมากลับพบว่าตาซ้ายพร่ามัว และมีอาการตาล็อกขยับไม่ได้ หมอบอกว่าอาจเกิดจากโรคประจำตัวไม่เกี่ยวกับยาที่ฉีด ทุกวันนี้ชีวิตลำบากมาก ตาพร่ามัวมองไม่ชัดแม้แต่เดินยังลำบาก ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากตนเป็นพนักงานขับรถ
ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ หลังจากที่ตรวจเบื้องต้น พบว่าอาการตาล็อกนี้อาจเกิดจากกล้ามเนื้อตาด้านซ้ายไม่ทำงาน สามารถพบเจอได้ทั่วไป ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุ คาดว่าเกิดจากโรคความดันมากกว่ายา เนื่องจากยาแก้ปวดที่ฉีดจะมีผลข้างเคียงประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 6 เดือนจึงจะหายเป็นปกติ
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ตามหลักการควรมีหลักฐานการรักษาที่ครบถ้วน แต่ในใบส่งตัวของคุณเกม ไม่มีชื่อยาอีกชนิดที่ฉีดให้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่ามีการฉีดยาทั้งหมด 2 เข็ม ทนายสงกาญ์จึงแนะนำให้ไปให้ปากคำกับตำรวจในทันที เพื่อไม่ให้ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน และตำรวจควรรีบดำเนินการสอบสวน ว่าการกระทำดังกล่าวของโรงพยาบาล เป็นการประมาทหรือไม่
ด้านคุณเกมเปิดเผยว่า มีพยาบาลมาบอกว่าให้ไปถอนแจ้งความ ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลตนได้รับเพียงการเลื่อนนัดตรวจให้เร็วขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายหรือการเยียวยาอื่น ๆ ยังไม่ได้รับจากโรงพยาบาลเลย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม