หนุ่มปวดหัว หมอจับฉีดยาแก้ปวด ตาล็อก ภาพเบลอ หวั่นตาบอดโดนไล่ออกจากงาน !

หนุ่มสุดงง ปวดหัวไปหาหมอฉีดยา แต่พอกลับมาถึงบ้าน เกิดอาการตาล็อก ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หวั่นพิการตาบอด กลัวถูกไล่ออกจากงาน ด้านจักษุแพทย์ชี้แจง อาจเกิดจากโรคความดันทำให้กล้ามเนื้อตาไม่ทำงาน และสามารถหายเองได้ แต่ต้องรอกว่า 6 เดือนจึงจะกลับมาเป็นปกติ

 

วันที่ 16 มิ.ย. 66 คุณนพดล ภักดีนอก (เกม) ผู้ป่วย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ในวันเกิดเหตุ ตนมีอาการปวดหัวในขณะที่มีนัดหมอพอดี เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโรคความดันและโรคหอบ หลังจากฉีดยาระงับอาการปวดหัวจึงกลับไปนอนพักที่บ้าน ตื่นขึ้นมากลับพบว่าตาซ้ายพร่ามัว และมีอาการตาล็อกขยับไม่ได้

 

 

จึงได้เข้าไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ได้คำตอบว่าอาจเป็นเพราะยาที่ฉีด หรือเกิดจากโรคประจำตัว เช่นความดัน ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวไปตรวจหาสาเหตุด้วยการสแกน MRI เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด แต่ต้องรอคิวถึงสิ้นเดือน ด้วยความกังวลตนจึงไปลงบันทึกประจำวัน ทุกวันนี้ชีวิตลำบากมาก ตาพร่ามัวมองไม่ชัดแม้แต่เดินยังลำบาก ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากตนเป็นพนักงานขับรถ

 

ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ หลังจากที่ตรวจเบื้องต้น พบว่าอาการตาล็อกนี้อาจเกิดจากกล้ามเนื้อตาด้านซ้ายไม่ทำงาน สามารถพบเจอได้ทั่วไป ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น โรคความดันที่เลือดไม่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ การติดเชื้อที่ทำให้เส้นประสาทเสีย หรืออาจเกิดจากยาที่ฉีด แต่สาเหตุจากยาคาดว่าจะมีผลข้างเคียงประมาณ 1 สัปดาห์ จึงให้น้ำหนักไปที่โรคความดันมากกว่า ส่วนใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 6 เดือนจึงจะหายเป็นปกติ ส่วนการตรวจ MRI เป็นการยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรง เช่น เนื้องอกในสมอง

 

 

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ตามหลักการควรมีหลักฐานการรักษาที่ครบถ้วน แต่ในใบส่งตัวของคุณเกม ไม่มีชื่อยาอีกชนิดที่ฉีดให้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่ามีการฉีดยาทั้งหมด 2 เข็ม ทนายสงกาญ์จึงแนะนำให้ไปให้ปากคำกับตำรวจในทันที เพื่อไม่ให้ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน และตำรวจควรรีบดำเนินการสอบสวน ว่าการกระทำดังกล่าวของโรงพยาบาล เป็นการประมาทหรือไม่

 

 

การรักษาและการดำเนินการทางกฎหมายจะต้องทำควบคู่กันไป โดยตำรวจจะต้องสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล และสอบปากคำผู้เสียหายโดยด่วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและเป็นประโยชน์ต่อการรักษาในอนาคต ด้านคุณเกมเปิดเผยว่า มีพยาบาลมาบอกว่าให้ไปถอนแจ้งความ ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลตนได้รับเพียงการเลื่อนนัดตรวจให้เร็วขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายหรือการเยียวยาอื่น ๆ ยังไม่ได้รับจากโรงพยาบาลเลย

 

นพ.ศักดิ์ชัย ยืนยันว่าอาการตาล็อกที่เกิดขึ้นสามารถหายเองได้ แต่จะต้องใช้เวลานานและประคับประคองอาการร่วมกับการรักษาไปด้วยกัน หลังจากนี้ทางรายการถกไม่เถียงจะติดตามช่วยเหลือด้านการดำเนินการทางกฎหมายและการรักษาต่อไป

 

ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35