วันที่ 12 มิ.ย. 66 รายการถกไม่เถียง ช่อง 7HD ได้นำเสนอประเด็น “ไม้ตาย” พลิกล็อก ปมพิธาถือหุ้นสื่อ เขย่าแผน “ฟื้นคืนชีพ” ITV โดยมีการเรียนเชิญ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง และรศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว
โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร บอกว่า ได้รับชมคลิปที่ตกเป็นข่าวในลักษณะนี้แล้ว และมองว่าเป็นคลิปที่สนุกมากเทียบได้กับการรับชมภาพยนต์สายลับ เนื้อหามีการสลับไป สลับมา ซึ่งมีการเริ่มต้นเปิดเรื่องด้วยรายงานการประชุม ระบุว่า IVT ยังดำเนินกิจการเรื่องสื่ออยู่ มีเอกสาร มีการเซ็นรับรองครบถ้วน
นายสมชัยเปิดเผยอีกว่า ได้รับชมคลิปแล้วตั้งข้อสังเกตว่า เสียงและภาพว่าตรงกันหรือไม่ และพบว่ามีบางช่วงที่เห็นได้ชัดว่าภาพกระโดดเหมือนมีการตัดต่อ ทั้งนี้นายสมชัยเปิดเผยว่า ได้ดูอีกฉบับที่มีความยาว 3 นาทีแล้วเช่นเดียวกัน และพบว่าข้อมูลไม่ตรงกัน สำหรับคลิปนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญให้ กกต. ใช้ประกอบการวินิจฉัยได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า "คำตอบคือ ได้" แต่ต้องมีการนำเรื่องส่ง กกต.อย่างเป็นทางการ พร้อมกับมีการเซ็นรับรองด้วย
ขณะที่ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ได้อธิบายว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นคดีที่ถูกหยิบยกขึ้นมาแล้วใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง ซึ่งข้อมูลออกมาไม่ตรงกันสำหรับเรื่องนี้เอกสารคือพยานชั้น 1 แต่วันนี้ คลิปหรือพยานวัตถุ ได้ไปหักล้างความน่าเชื่อถือของพยานเอกสาร ขึ้นตอนไปต่อคือการเรียกพยานบุคคลมาสอบเพิ่มเติม เป็นผู้ที่อยู่ในที่ประชุม และไม่มีส่วนได้เสียกับกรณีดังกล่าวมาสอบถามว่า ได้ยินว่าอย่างไร มีการพูดว่าอะไร เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร นี่คือภาพรวมของการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด
นอกจากนี้ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวเพิ่มว่า ยังต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกว่า ITV เป็นหุ้นสื่อหรือไม่ ซึ่งถ้าหากดูในทางข้อเท็จจริง ต้องบอกว่า "ไม่มีความเป็นหุ้นสื่อมาตั้งแต่ต้น" รศ.ดร.ยุทธพร ให้เหตุผลว่า เพราะ ITV เป็นสถานีโทรทัศน์ ซึ่งกิจการโทรทัศน์ต้องได้รับการอนุญาตก่อนจัดตั้ง จาก กสทช. ต้องมีสัญญาสัมปทาน ซึ่งในกรณีนี้สัญญาสัมปทานถูกยกเลิกไป 10 กว่าปีแล้ว รวมถึงยังมีเอกสารอื่นๆ เช่น สัญญาเลิกจ้างพนักงาน ที่จะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงไม่ได้ประกอบกิจการสื่อแล้ว
รศ.ดร.ยุทธพร วิเคราะห์ทิศทางทางการเมืองของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ให้ 50 : 50 เพราะยังมีหลายปัจจัยที่รออยู่ข้างหน้า ถึงแม้ขณะที่นายพิธาจะได้การรับรองจาก กกต.แล้ว แต่ด่านข้างหน้าจะมีการร้องตามมาตรา 82 หรือไม่ ต้องรอติดตามสถาการณ์หลังเปิดสภา
ส่วนนายสมชัย มองว่า กระบวนการของมาตรา 82 ซึ่งมี 2 ช่องทาง คือ 1. กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญเอง ถ้าหากเห็นว่า นายพิธาขาดคุณสมบัติ 2. สส.50 คนขึ้นไป เข้าชื่อกันก็นำส่งศาลรัฐธรรมนูญได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากการพิจารณาเกิดขึ้นโดยไวก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีจะมีผลดีกว่า แต่หากการพิจารณายืดยื้อ อาจมองได้ว่าเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่โหวตให้
+ อ่านเพิ่มเติม