ทนายเดชา ทำคลิปให้ความรู้ทางกฎหมาย ประเด็นเอกสารบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นสื่อไอทีวี กับคลิปที่บันทึกจากการประชุมไม่ตรงกัน คำถามสำคัญ คือ กรณีเช่นนี้ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ทนายเดชา แจงใครต้องรับผิด ปมทำหลักฐานเท็จหุ้นไอทีวี
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ทำคลิปให้ความรู้ทางกฎหมายพูดถึงเรื่องนี้ว่า หลักฐานทั้ง 2 ด้าน ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน โดยใน เอกสารบันทึกการประชุม หน้าสุดท้ายระบุคำถามว่า บริษัทมีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่ คำตอบ คือ ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท
แต่จากคลิปวิดีโอที่มีสื่อมวลชนช่องหนึ่งนำเสนอ คำถามของผู้ถามคนเดียวกัน แต่ประธานในการประชุมกลับตอบว่า ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ นะครับ นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเปิดเผยหลักฐานการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ยิ่งตอกย้ำเรื่องสถานะการประกอบกิจการชัดเจนขึ้น ดังนั้น ประธานในที่ประชุม, ผู้ลงนามรับรองรายงานการประชุม, กรรมการผู้สอบทานและแก้ไข คือ ผู้ที่เข้าข่ายต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดทำรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ
ส่วนผู้ที่ร้องเรียนเรื่องนี้ให้ กกต. ตรวจสอบ ก็อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง สส. ฐานผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า ผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ฉบับนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และถูกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี หากเป็นการแจ้ง หรือให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการเป็นเท็จ โทษจะสูงขึ้นเป็นจำคุกตั้งแต่ 7 - 20 ปี ปรับตั้งแต่ 140,000 - 200,000 บาท และถูกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี
สมชัย แนะส่งหลักฐานใหม่ ไอทีวี ให้ กกต. เชื่อคดีพิธา ยุติได้
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนสติสังคมที่กำลังยินดีกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังมีสื่อมวลชน ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกการประชุมของ ITV ที่มีเนื้อหาว่า ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ ซึ่งไม่ตรงกับรายงานการประชุม ที่เป็นหลักฐานสำคัญในการร้อง กกต. เพราะจากการดูคลิปซ้ำไปซ้ำมากว่า 10 รอบ มีข้อสังเกตที่ต้องให้ความเป็นธรรม เช่น คลิปมีการสะดุด ระหว่างการเอ่ยคำถาม และคำตอบที่สำคัญ คล้ายเป็นการบันทึกที่ไม่ต่อเนื่อง หรือตัดบางประโยคออก
แต่ล่าสุดทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้กับ นายสมชัย ได้ข้อสรุปว่า ตอนนี้มั่นใจว่าคลิปหลักฐานดังกล่าวเป็นของจริง เนื่องจากได้ดูคลิปตัวเต็มแล้ว มีการตัดตัวคลิปออกเพียงเสี้ยววินาที ในช่วงของคำถาม และคำตอบสำคัญ ทำให้ภาพกระตุก ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเรียกว่า dead air คือไม่มีการพูด เลยเฉือนทิ้งออกไปทำให้ภาพกระตุก ดังนั้นผู้เสียหายในเรื่องนี้ ทั้งเจ้าของคลิป และ นายพิธา ควรนำคลิปหลักฐานนี้ไปแจ้งความ และส่งให้ กกต. วินิจฉัย ซึ่งถือว่าขณะนี้ ทุกอย่างกำลังไปในทิศทางที่ดี
มัลลิกา แจงคลิปประชุมหุ้นไม่ใช่ประเด็น ฟันไอทีวีเป็น สื่อ
ด้าน ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน และอดีตกรรมการบริหารและ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตข้อความถึงกรณีสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ยังคงสถานะสื่ออยู่หรือไม่ว่า เถียงอะไรกันนักคะ! ไอทีวี เป็นสื่อตั้งแต่การจดทะเบียนวัตถุประสงค์บริษัท สิ้นสุดกระแสความที่ตรงนี้ค่ะ ไม่ต้องเถียงกันหรือหาหลักฐานอะไรมาว่าไอทีวีจะกลับมาเป็นสื่ออีกหรือไม่! พิธาหรือใครที่ถือหุ้นสื่อโดยที่จะเป็นโทรทัศน์หรือจะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนวัตถุประสงค์เป็นสื่อ และยังไม่ได้ปิดบริษัท! ต่างก็ล้วนกระทำผิดไปแล้ว การโอนหุ้นออกอันนั้นเพื่ออนาคตที่ยังมาไม่ถึง # ปิดไม่มิด กับการกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้ว
ต่อมา ดร.มัลลิกา ได้ทวีตข้อความต่อว่า ดังนั้นการจะจับโกหก นิกม์ หรือการจะเอาผู้สื่อข่าวคนใดมาเปิดหลักฐานใดก็ไม่ใช่ประเด็น! ประเด็นมันอยู่ที่ # ถือหุ้นสื่อ ถืออยู่ ถือแล้ว ถือเอง 17 ปี ส่วนเรื่องไอทีวี เขาจะกลับมาเป็นสื่อหรือทำธุรกรรมอะไรของเขา มันเป็นเรื่องที่เขาพยายามมานานแล้วตั้งแต่ปี 53 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพิธาหรือผู้ใด # พิธา ไม่ได้สำคัญมากขนาดที่ไอทีวีต้องวางแผนตั้งแต่ปี 53 มั้ง การถือหุ้นสื่อในบริษัทที่จดวัตถุประสงค์เป็นสื่อ จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะสมัคร สส. และเมื่อเทียบกับคนของพรรคไทยภักดี ก่อนหน้านี้เขามีหุ้นสื่อช่องหนึ่งเพียงแค่ 1 หุ้น เท่ากับ 5 บาท เขาก็โดนตัดสิทธิไปแล้วเรียบร้อย !! # จบเนาะ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35