“แสงมณี พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ขอพลิกบทบาท ออกล่าประสบการณ์ในต่างแดน ผันตัวเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ ค่ายดังแดนสิงโตตามรอยรุ่นพี่มวยไทยหลายคนที่บินลัดฟ้าไปขุดทองที่นั่น
หลังจากมาโชว์ผลงานใน ONE ลุมพินีสองครั้ง แต่ผลงานไม่ได้ดั่งใจ โดยไฟต์แรกแพ้คะแนนให้ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” และในไฟต์ที่สองแพ้น็อกให้กับ “ฟาบิโอ เรอิส” ทำเอา “แสงมณี” เกิดอาการท้อ และยอมรับว่าในช่วงหลังฟอร์มของตัวเองตกลงอย่างเห็นได้ชัด
“แสงมณี” ยอมรับว่าเริ่มมองหาเส้นทางอาชีพอื่นไว้เป็นทางเลือก แต่ด้วยเจ้าตัวคลุกคลีกับวงการมวยมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการผันตัวมาเป็น “ครูมวย” ที่ยิมอีโวลฟ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ตามรอยรุ่นพี่ในวงการที่ไปได้ดิบได้ดีที่นั่นหลายคน โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า
“ผมเตรียมตัวกับเรื่องมาเป็นครูมวยที่อีโวลฟ์อยู่ 2 เดือนครับ เพราะช่วงหลัง ๆ มา ผมซ้อมได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องแบ่งเวลาไปเรียนด้วย ฟอร์มการชกมันก็ออกมาไม่ดี ทำให้ลึก ๆ ในใจมันก็มีท้อบ้างครับ จริง ๆ ครอบครัวผมก็เคยบอกให้ไปหาสมัครงานนะครับ แต่ผมคิดว่าผมเพิ่งอายุ 26 เอง ผมอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ในวงการมวยก่อน อยากลองมาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ รวมถึงอยากฝึกภาษาด้วยครับ ผมจึงตัดสินใจมาอยู่ที่อีโวลฟ์”
โดยยอดมวยหนุ่มจากเมืองหมอแคน ได้ออกเดินทางมายังประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรุ่นพี่นักมวยที่มาเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์อยู่ก่อนคอยให้คำแนะนำเพื่อช่วยในเรื่องการปรับตัวและใช้ชีวิตต่างแดน
แม้ว่าการมาเป็นในครูมวยที่อีโวลฟ์ของ “แสงมณี” จะโฟกัสไปที่การทำงานสอนเป็นหลัก แต่เมื่อมีเวลาว่างเจ้าตัวก็ยังซ้อมมวยไทยอยู่ตลอด และรอโอกาสที่จะกลับไปคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งบนสังเวียน
“พอได้มาลองทำงานนี้ผมรู้สึกว่าสนุกดีครับได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เจอสังคมใหม่ ๆ เรื่องการใช้ชีวิตที่สิงคโปร์ ผมได้พี่ตุ๊กตาทอง เพชรพญาไท, พี่พนมรุ้งเล็ก เกียรติหมู่ 9 และเพื่อน ๆ ที่นี่คอยให้คำแนะนำในเรื่องการเดินทาง และเทคนิคการสอนครับ”
“ส่วนเส้นทางมวยไทยของผม ตอนนี้ผมจะเน้นเรื่องงานสอนเป็นหลักครับ แต่ถ้ามีเวลาก็ยังซ้อมมวยไทยอยู่เรื่อย ๆ ผมยังอยากกลับไปชกอยู่ครับ”
สำหรับ “อีโวลฟ์ MMA” ค่ายใหญ่แห่งเกาะสิงคโปร์ก่อตั้งโดยบิ๊กบอส ONE “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยิมสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่รวบรวมผู้สอนดีกรีแชมป์โลกไว้มากที่สุด โดยมีหนึ่งในจุดประสงค์หลัก คือการมอบโอกาสให้นักกีฬาการต่อสู้ระดับแชมป์โลกจากหลากหลายประเภทกีฬา ทั้งแชมป์โลกมวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, BJJ ฯลฯ ได้ทำงานในสายงานที่รักและถนัด ด้วยค่าตอบแทนซึ่งจัดได้ว่า “สูงที่สุด” ในบรรดายิมสอนการต่อสู้ทั่วโลก โดยครูผู้ฝึกสอนจะได้รับเงินค่าจ้าง พร้อมด้วยค่าสอนพิเศษส่วนตัว เฉลี่ยต่อคนราว 150,000 – 400,000 บาทต่อเดือน
+ อ่านเพิ่มเติม