logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

เหยื่อร้อง ! ถูกนายทุน 2 ผัวเมีย หลอกให้ผ่อนที่ดินทิพย์ จ.เชียงใหม่ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อมีนายทุน 2 ผัวเมียเข้าไปหลอกขายที่ดิน ที่ไม่มีอยู่จริง ให้กับชาวบ้าน ในภาคเหนือหลายจังหวัด พบม ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

470 ครั้ง
|
12 มิ.ย. 2566
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อมีนายทุน 2 ผัวเมียเข้าไปหลอกขายที่ดิน ที่ไม่มีอยู่จริง ให้กับชาวบ้าน ในภาคเหนือหลายจังหวัด พบมีทั้งคนไทย และคนต่างด้าว ตกเป็นเหยื่อกว่า 1,000 ราย งานนี้ผู้เสียหายทั้งหมด รวมตัวกับไปร้องขอความช่วยเหลือกับ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 
 
จากกรณีที่ “เจ้เปิ้ล” นางพิชามญชุ์ กับสามีได้ทำคลิปโฆษณาจัดสรรที่ดินขายในราคาถูก ทั้งเงินสดและเงินผ่อนรายเดือนระยะยาว ในพื้นที่ อ.สารภี,แม่ริม,สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ อ.เมืองลำพูน มีการขึ้นป้ายโฆษณา และทางสื่อออนไลน์ ปรากฎว่ามีผู้หลงเชื่อไปซื้อทั้งระบบผ่อนส่งรายเดือน ไม่เสียดอกเบี้ยนานถึง 4 ปี เมื่อผ่อนส่งได้ 3 เดือนสามารถปลูกสร้างที่อยู่อาศัยได้ และซื้อเงินสด 
 
หลังจากนั้น เมื่อครบตามสัญญากลับโอนที่ดินไม่ได้ เมื่อสอบถามก็บ่ายเบี่ยง ส่วนเจ้าของที่ดินเดิมได้เข้ายึดที่ดินจากเจ้าของโครงการคืนทั้งหมด จนตอนนี้มีผู้เสียหายจาก 12 โครงการที่ “เจ้เปิ้ล” นางพิชามญชุ์ กับสามี เปิดโครงการไว้ มีผู้เสียหายมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งเป็นทั้งชาวไทย และคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ และไทใหญ่ ที่ตกเป็นเหยื่อรวมมูลค่าตอนี้น่าจะถึง 200 ล้านบาทแล้ว 
 
ความคืบหน้าในวันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พบกับกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก มีทั้งชาวไทย และคนต่างด้าว มาร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เพื่อขอให้ตำรวจช่วยเร่งรัดดำเนินคดี
 
นายนัตถ์ธนินทร์ หรือ “ต้น” สินเพ็ญ อายุ 51 ปีชาว จ.อยุธยา หนึ่งในผู้เสียหาย (แกนนำกลุ่ม) ได้เปิดเผยว่า ขบวนการพวกนี้ทำในรูปแบบพื้นที่จัดสรร คือรวบโฉนดมา แล้วนำมาทำเป็นแปลง มาทำเป็นล็อก ๆ คือมีเจตนามาโกงโดยตรง เรื่องนี้ผู้เสียหายได้มีการไปแจ้งความกล่าวโทษไว้แล้วหลายท้องที่ และยังมีที่กองปราบที่กรุงเทพด้วย และมีการขออนุมัติหมายจับแล้วหลายท้องที่ คนร้ายรายนี้ แต่ก็ยังจับกุมตัวไม่ได้
 
สองผัวเมียคู่นี้สร้างเรื่องราวขึ้นมาหลอกชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวไทยใหญ่ โดนหลอกมากที่สุด พวกไทยใหญ่นั้นไม่สามารถครอบครองที่ดินได้ แต่มาถูกพวกนี้หลอกก็เชื่อและเสียเงินเสียทองดังกล่าว รองลงมาก็พวกมีรายได้น้อย อยากมีที่อยู่ 
 
พวกนี้ลงทุนด้วยการขึ้นป้ายตามจุดชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งลงโฆษณาชวนเชื่อในโซเซียล ชักชวนให้มาซื้อที่ดินราคาถูก การเดินทางมาครั้งนี้ของผู้เสียหาย ก็คือมาแจ้งความเพิ่มและสอบถามความคืบหน้าของคดี
 
ทางด้านผู้เสียหายอีกราย ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว เปิดเผยว่า ตนก็คิดว่าตนจะไม่มาซื้อตรงนี้ แต่พอมาเห็นสถานที่ ตนไปเห็นรูปแบบการเสนอขายของพวกเขา เขาก็มีโฉนดที่ดินให้ดู มีการจัดสรรตรงนี้ตรงนั้น การจัดผังแปลงต่าง ๆ อย่างมีระบบ และสาธารณูปโภค ที่เขาจะมีให้กับเรา ทำให้ตนเกิดความมั่นใจว่า เขาไม่โกง ทั้งเป็นที่ดินที่ถูกต้องตามกฏหมาย ทำให้เกิดความมั่นใจ สามารถซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้ใช้ได้ตอนที่เกษียณ ยามแก่ชรา ก็จะมีบ้านสักหลังหนึ่งตรงนี้ 
 
ตนนั้นมีพี่น้องด้วยกัน 3 คน ก็ได้ชักชวนกันมาซื้อที่ดินดังกล่าวไว้ยามเกษียณ ชรา มาอยู่ด้วยกัน 3 คนพี่น้องตอนแก่ แต่ก็ต้องมาผิดหวัง โดยตนซื้อทั้งหมด 4 แปลงด้วยกัน ในวงเงินเกือบล้าน หากผ่อนเสร็จก็ล้านกว่า ตนได้ผ่อนไป 5 เดือน ก็เห็นความผิดปกติ ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ที่ดินมารางวัดที่ดินให้กับผู้ซื้อที่ดินตรงนี้ 
 
ทางด้านสาวชาวไทยใหญ่ ที่ถูกหลอกมาซื้อที่ดิน ได้เปิดเผยว่า ตนหลงเชื่อและมาขอซื้อที่ดินจำนวน 50 ตารางวา เสียเงินเบื้องต้นไป130,000 บาท ตอนนี้รู้ว่าถูกหลอก แต่ก็ไม่สามารถแจ้งความได้ เพราะเป็นชาวไทยใหญ่ มีเพื่อนที่เป็นกลุ่มไทยใหญ่ ที่หลงเชื่อว่าซื้อที่ดินได้ ถูกหลอกเยอะมาก 
 
พวกนี้จะหลอกพวกตนว่า ไทยใหญ่ก็ซื้อได้ แต่ต้องมีลูกเกิดในไทยเมื่อลูกอายุ 20 ปี ก็สามารถครอบครองที่ดินได้ เพราะลูกเกิดในไทยก็เป็นคนไทย ตนก็คิดว่าผ่อนเสร็จลูกก็อายุ 20 ปี พอดี ก็เลยหลงเชื่อ ก็เลยตัดสินใจซื้อ ก็มีมชาวไทยใหญ่หลายคนถูกหลอกในลักษณะแบบนี้  สำหรับตนนั้นเดือดร้อนมากเพราะเงินที่เสียไปไปยืมญาติพี่น้องมา เพราะหวังว่าจะได้มีที่ดินมีที่อยู่ ให้กับตนและลูก 
 
โดย พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้จะรวบรวมคดีของผู้เสียหายทั้งหมดที่กระจัดกระจายแจ้งความแต่ละท้องที่ ให้รวมมาเป็นคดีเดียวกัน ก็ต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการกระทำผิดมีลักษณะเดียวกัน และกลุ่มผู้ต้องหาก็เป็นกลุ่มเดียวกัน คดีนี้ได้มีการกล่าวทุกข์ร้องโทษกับสองสามีภรรยาแล้ว 
 
และยังพบว่ามีกลุ่มเซล ที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์หลอกลวงด้วยเช่นกัน ก็คงมีการกล่าวโทษก้บเซลกลุ่มนี้ด้วย ตนได้สั่งการให้ ทาง รอง ผบช ภ 5 และ ผู้การเชียงใหม่ ให้จัดตั้งกองอำนวยการสอบสวน จัดคิว เพื่อที่จะให้สอบปากคำผู้เสียหายได้มากขึ้นเร็วขึ้น คาดว่าไม่เกิน 15 วัน ผู้เสียหายอีกประมาณ 200 คน เราจะสอบปากคำให้เสร็จสิ้น เบื้องต้นได้อายัดบัญชีสองสามมีภรรยาไว้แล้วที่ธนาคาร
 
ส่วนกรณีที่พวกเซล ขายที่ดินที่มีการแตกกลุ่มไปสร้างโครงการทิพย์ เพิ่มอีกเพื่อหลอกลวงประชาชนนั้น ตนได้สั่งการให้กองสืบของกองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ไปสืบหาพยานหลักฐานข้อมูล หากพบมีการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดีกันไปตามกฏหมายกับกลุ่มบุคคลกลุ่มเซลพวกนี้อีกคดีหนึ่ง 
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/VZJRFY-8m3M

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง