วิโรจน์ มอบหลักฐาน “ส่วยสติกเกอร์” ให้จเรตำรวจ เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล และนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำเอกสารหลักฐานไปส่งต่อให้กับจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบกรณีส่วยทางหลวง เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

นายวิโรจน์ บอกว่า เอกสารที่รวบรวมมาวันนี้ ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเบาะแสปลายทาง การสอบสวนขยายผลต้องให้ตำรวจดำเนินการ เชื่อว่าทำได้ดีกว่า และตำรวจคงมีข้อมูลไปไกลแล้ว

 

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวนบางคน ที่ทำสำนวนเรียกรับผลประโยชน์ เช่น รถบรรทุกบางคัน น้ำหนักเกินเพียง 100-200 กิโลกรัม ซึ่งไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย แต่พนักงานสอบสวนกลับบรรจุไว้ในสำนวนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ และสร้างสัญญาเช่าเท็จ จากคนขับรถเปลี่ยนเป็นคนเช่ารถ เพื่อให้รถไม่ต้องถูกยึด แถมเรื่องนี้ยังพัวพันถึงอัยการบางคนด้วย จึงเหมารวมผู้ประกอบการว่าทำผิดกฎหมายทั้งหมดไม่ได้ เพราะหลายคนอยู่ในภาวะจำยอม เพราะมีระบบแบบนี้

 

สื่อมวลชนได้ถามทางประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยว่า ที่ออกมาร้องทุกข์เพราะเสียผลประโยชน์หรือไม่ นายอภิชาติบอกว่าสหพันธ์ได้ร่วมกันลงนามทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสมาชิกไว้แล้วว่าจะไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าพบว่าสมาชิกรายใดที่ทำผิด จะขับไล่ออกจากองค์กร หากมีคนที่ร้องเรียนอ้างว่าสหพันธ์เสียผลประโยชน์นั้น ให้มายื่นข้อมูล ตนยินดีไปชี้แจง

 

นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและสหพันธ์ยินดีที่จะทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกอื่น ๆ ยืนยันว่าจะไปเหมารวมผู้ประกอบการรถบรรทุกว่าทำผิดกฏหมายไม่ได้ ซึ่งวันนี้พยายามทำทุกอย่างให้โปร่งใสร่วมกัน ไปฟังเสียงนายวิโรจน์

 

ด้าน พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าวันนี้ได้รับข้อมูลทั้งหมด จะไปตรวจสอบดูว่าเกี่ยวข้องพาดพิงถึงใครบ้าง ผบ.ตร.กำชับมาว่าใครที่กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นตำรวจทางหลวง หรือตำรวจอื่นใด หากตรวจสอบพบพัวพันพาดพิงถึงใครจะดำเนินการทั้งหมด ยืนยันว่าจเรตำรวจและตำรวจสอบสวนกลางจะทำหน้าที่ให้รวดเร็วและดีที่สุด ทั้งนี้จะทำงานให้อยู่ในกรอบระยะเวลา 15 วัน

 

จ่อสั่งย้ายตำรวจทางหลวง 30-40 นาย

และเมื่อช่วง 14.00 น. เมื่อวานนี้ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลางเรียกประชุมความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ซึ่งหลังประชุมเสร็จ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเปิดเผยว่า จากการประชุมเกี่ยวกับการจะดำเนินการกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วยทางหลวง ตอนนี้คาดว่ามีจำนวนตำรวจทางหลวง ที่จะถูกเซ็นคำสั่งโยกย้ายได้ในวันนี้ (9 มิ.ย.) ประมาณ 30-40 คน มีทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตร โดยจะให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพบพยานหลักฐาน และถูกพาดพิงจากผู้ประกอบการ และจากการสืบสวนก็เชื่อได้ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีหลายรูปแบบ ทั้งที่ไปเกี่ยวข้องกับสติกเกอร์ และการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งขอรอสรุปความชัดเจนอีกครั้งก่อน