“ม็อบ 24 มิถุนา” บุกยื่นหนังสือกดดัน กกต. เร่งรับรองผลเลือกตั้ง

249 ครั้ง

08 มิ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

กลุ่มผู้ชุมนุมยื่นหนังสือกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง หวังเร่งรับรองผลการเลือกตั้ง ภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ และไม่รับพิจารณาปมถือครอบครองหุ้นของนายพิธา

ม็อบบุกยื่นหนังสือกดดัน กกต.

เป็นหน่วยงานที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กำลังตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีถือครอบครองหุ้นสื่อ รวมถึงประเด็นมีมติให้นับคะแนน สส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ 31 หน่วย และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ 16 หน่วย รวมทั้งหมด 47 หน่วย เนื่องจากมีปัญหาผลคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทาง กกต. ได้มีการประชุมตามวาระที่กำหนด

โดยมีผู้ชุมนุมกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ประชาธิปไตย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นัดรวมตัวกันยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องให้รับรองผลการเลือกตั้ง ภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ และกดดันไม่ให้รับพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการถือครอบครองหุ้นของนายพิธา

นายสมยศ กล่าวว่า กำลังจะครบ 1 เดือนของการเลือกตั้งแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ กกต. ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง สส.ร้อยละ 95 ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ล่าช้าไปด้วย และเปิดโอกาสให้อำนาจนอกระบบประชาธิปไตย เข้าแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่อาจเป็นวิกฤตการเมือง และการชุมนุมครั้งใหญ่ได้

ยันนับคะแนนใหม่ ไม่กระทบไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้สำหรับกรณี กกต. มีมติสั่งนับคะแนนการเลือกตั้งใหม่ 47 หน่วย จะทำให้ไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าหรือไม่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาล เพราะ กกต. ต้องประกาศผล ภายในไม่เกิน 60 วัน คือ วันที่ 13 ก.ค. เช่นเดิม ส่วนจะเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ อย่างที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ตนเองไม่สามารถตอบได้

แจงยิบปมรับโทษกักตัวที่บ้าน-ขอพระราชทานอภัยโทษ

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเดินทางกลับประเทศ ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่อยากให้ไปโยงนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เคยระบุว่าถ้ามีโทษ ให้ไปรับโทษกักตัวที่บ้าน เพราะยังไม่มีระเบียบออกมา ตอนนี้มีเพียงกฎหมายกระทรวง เมื่อปี 2552 สมัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งโทษถูกขัง 3 ประเภท ที่ให้เปลี่ยนไปขังที่บ้านได้ คือ คนที่อยู่ระหว่างการสอบสวน คนที่ถูกศาลสั่งจำคุก และรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 และหญิงมีครรภ์ ที่ศาลสั่งประหารชีวิต แต่ยังไม่คลอด

ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้งเป็นนักโทษการเมือง หรือไม่ใช่นักโทษการเมือง จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันหมด ขอเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าถูกยกคำขอ อีก 2 ปี จึงจะขอใหม่ได้ แต่ขอชี้แจงว่า ผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องรับโทษก่อน จึงจะขอได้ และไม่มีเวลากำหนดว่า จะต้องรับโทษจำนวนเท่าไหร่ แต่หากขอพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกา มีเกณท์คือ รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี

“หมอชลน่าน” ไม่รู้ข่าว “ทักษิณ” ถูกเบรกกลับไทย

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณ ยังมีกระแสข่าวหลากหลายมุม ล่าสุดมีรายงานว่า ครอบครัวของนายทักษิณ มีความกังวลไม่อยากให้อดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ เดินทางกลับมาในช่วงนี้ เพราะไม่มั่นใจว่า จะถูกหลอกหรือไม่ และอยากให้เดินทางกลับไทยช่วงจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นเสียก่อน

ซึ่งประเด็นนี้ ทีมข่าวได้สอบถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของนายทักษิณ ส่วนการทำงานของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ยังคงเป็นปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

HD ว่า ส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และไม่ได้สอบถามคุณอุ๊งอิ๊ง เพราะเป็นเรื่องของครอบครัว แต่การทำงานของคุณอุ๊งอิ๊งกับพรรคเพื่อไทย ก็ยังดำเนินการอยู่ในฐานะสมาชิกพรรค ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน พร้อมย้ำว่า ตนเองทราบกระแสข่าวดังกล่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35