อดีตกงสุลกิตติมศักดิ์ใหญ่ไทย ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้สร้างครอบครัวอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และช่วงเดือนพฤษภาคมบินมาเที่ยวที่ประเทศไทย เกิดป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อนชาวไทยจึงนำส่งโรงพยาบาล พร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ไปก่อน 60,000 บาท ต่อมาผู้ป่วยเกิดเสียชีวิต ญาติบินตามมาแค่ดูศพ และถ่ายรูปศพ จากนั้นก็บินกลับไป ทิ้งศพไว้ที่โรงพยาบาล ไม่นำศพออกไปทำพิธีทางศาสนา กลายเป็นศพอนาถา แถมไม่ยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 400,000 อีกด้วย
น.ส.ดวงใจ หรือเบียร์ ธาวินัย อายุ 54 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน กรณีตนเองรูดบัตรเครดิตการ์ด จำนวน 60,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลนนทเวช เพื่อทำการรักษาตัวเพื่อนสนิทของพี่สาวคือ MR.Hendrikus Hermanus อายุ 66 ปี อดีตกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เสียชีวิต และศพอยู่โรงพยาบาลนนทเวช และตอนนี้ไม่สามารถนำศพออกมาได้ เนื่องจากยังติดค้างค่ารักษาอยู่จำนวนเกือบ 400,000 บาท ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตคือ อดีตภรรยา พี่สาว ลูกสาว เดินทางมาพูดคุยก่อนเสียชีวิตเพียงวันเดียว ทุกคนต่างปัดความรับผิดชอบในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และบินกลับประเทศในวันนี้
น.ส.ดวงใจ หรือเบียร์ เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนสนิทกับพี่สาวของตน เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ได้นั่งแท็กซี่ออกจากที่พักย่านสุขุมวิท มาหาตนกับพี่สาวที่บ้านย่านประชาชื่น ตอนลงจากรถแท็กซี่ หลังจากพูดคุยได้ไม่นานผู้ตายมีอาการเหมือนเป็นไข้ ไอ ไม่สบาย ตน และพี่สาวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนนทเวช นอนพักรักษาตัวหมดค่ารักษาพยาบาลไปเบื้องต้นจำนวน 100,000 บาท ตนเองได้เจรจาต่อรองกับทางโรงพยาบาลขอชำระบัตรเครดิตก่อนเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ระหว่างนั้น ผู้ตายได้พูดกับตน และพี่สาวว่า ให้ติดต่อไปหาญาติที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเดินทางมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล โดยบอกกับตน และพี่สาวว่าไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องค่ารักษา เพราะที่บ้านผู้ตายมีฐานะร่ำรวย อยู่ในขั้นเศรษฐี ให้ทางโรงพยาบาลรักษาไปได้เลยเต็มที่
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ครอบครัวผู้ตาย ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ตายที่โรงพยาบาล โดยใช้เครื่องบินส่วนตัวบินมา และมีการพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย แต่แล้วจู่ ๆ วันที่ 3 มิถุนายน ผู้ตายก็ได้เสียชีวิตลง ตนเองได้ติดต่อสอบถามกับทางครอบครัวผู้ตาย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ บอกให้ตนเองรับผิดชอบไป ไม่เกี่ยวกับครอบครัวของเขา แล้วพวกเขากำลังจะบินกลับในนี้แล้ว
ตนรู้สึกงงเป็นอย่างมากว่าทำไมเขาถึงไม่นำศพออกมาจากทางโรงพยาบาล เพื่อนำกลับประเทศ หรือจะทำพิธีในประเทศไทยก็ได้ ตนได้รับการทวงถามจากทางโรงพยาบาลให้มาชำระเงินจำนวน เกือบ 400,000 บาท ที่ยังค้างอยู่พร้อมกับให้รีบมารับศพออกไป มิเช่นนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ตนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ทำไมอดีตภรรยา พี่สาว และลูกสาวของผู้ตาย ทำไมจึงทำแบบนี้ เท่าที่สอบถามพี่สาวของตนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาเยี่ยม ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ เป็นหลักฐานในโรงพยาบาล เมื่อทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตก็จะนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อศาลที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อทำเรื่องขอรับทรัพย์สมบัติของผู้ตายที่มีจำนวนมาก แต่ทำไมถึงปล่อยให้ผู้ตายเป็นศพอนาถานอนอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้
ตน และพี่สาว ช่วยเหลือผู้ตายมาตลอด หมดเงินไปเกือบ 500,000 บาทแล้ว คิดว่าจะได้เงินคืน แต่สุดท้ายกลับมาเจอการปฏิเสธจากครอบครัวของผู้ตายแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเดินทางไปติดต่อทางสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ก็แนะนำมาว่าสถานทูตไม่มีนโยบายที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือในลักษณะแบบนี้ ขอให้ตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายประเทศไทยเอง ตนจึงอยากฝากทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเกี่ยวข้องช่วยเหลือตนด้วย
ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ตระกูลของผู้เสียชีวิต ร่ำรวยเป็นอันดับที่ 50 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับ MR.Hendrikus เป็นกงสุลไทย ในประเทศเนเธอร์แลนด์มา 40 ปี MR.Hendrikus หลงไหลในประเทศไทย ช่วงหลังได้เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยบ่อยมาก
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35