บรรดา 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล คาด กกต.อาจรับรอง สส.เร็วขึ้น ขณะที่ “พิธา” ยืนยันเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง
“พิธา” ยันมีแผนสำรอง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมตัวแทนจาก 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันแถลงผลการประชุม โดยทั้ง 8 พรรค ประเมินว่า การประกาศรับรอง สส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะขยับเข้ามาเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ ไม่ยาวไปถึงวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับรอง
ฉะนั้นหากการรับรองขยับมาเร็วขึ้น ทางพรรคร่วม 8 พรรค ต้องเร่งรัดการทำงาน ทั้งด้านนโยบายและบุคลากร โดยยืนยันว่า เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะประชุมงบประมาณทันที เพื่อนำงบประมาณไปแก้ปัญหาให้ประชาชน
โดยนายพิธา ได้ตอบข้อซักถามถึงกรณีหุ้นไอทีวีว่า ต้องรอฟังความชัดเจนจาก กกต. ซึ่งตนเป็นผู้จัดการมรดก ตามที่ศาลอนุญาต จนกระทั่งโอนหุ้น ส่วนที่ระบุถึงกระแสฟื้นคืนชีพไอทีวีนั้น ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นการฟื้นคืน เพื่อเหตุผลทางธุรกิจ หรือเหตุผลทางการเมือง ฉะนั้นต้องลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนประเด็นเงินกู้ที่ผุดขึ้นมาใหม่นั้น (บริษัทธุรกิจผลิตน้ำมันรำข้าว ในสมัยที่ “พิธา” เป็นกรรมการ ปล่อยกู้ยืมระยะสั้นให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง 117 ล้านบาท แต่ไม่มีการชำระหนี้คืนให้บริษัท) ทางด้านนายพิธา กล่าวว่า ถ้ามีคนร้องประเด็นนี้จริง ก็พร้อมชี้แจง ป.ป.ช. หรือหากมีใบแดง ต้องเลือกตั้งใหม่ ก็ไม่กระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และพวกเราก็พร้อม เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อฝ่ายเรา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคใดมีอำนาจตัดสินใจเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทน นายพิธา กล่าวว่า เราเตรียมตัววางแผนรองรับ เพื่อให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด ไม่กังวล แต่ไม่ประมาท
“จตุพร” วิเคราะห์ปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ไลฟ์สดเฟซบุ๊กถึงปมถือหุ้นของนายพิธาว่า ต้นตอมาจากฝ่าฝืนข้อห้ามกฎหมาย โดยช่วงแรกอาจไม่คาดคิดว่า จะเกิดปัญหาขึ้น แต่วันนี้ต้องยอมรับความจริงหรือไม่ เพราะหนีไม่พ้นแล้ว แม้เทขาย หรือโอนหุ้นออกไป แต่ไม่มีผลจะช่วยให้หนีข้อห้ามตามกฎหมายได้
ส่วนตัวขอแนะนำให้นายพิธา ทำใจเย็นเอาไว้ และต้องคิดถึงการแก้ปัญหาว่า จะเป็นอย่างไร หากจะสู้ให้รอด จะเป็นได้จริงหรือไม่ แต่โอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยังยากอยู่ดี
ร้องเอาผิด “พิธา” พูดชื่อเหล้าออกสื่อ
ไปกันที่ความเคลื่อนไหวของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เพื่อให้ตรวจสอบนายพิธา หลังจากไปออกรายการชื่อดังทางช่องยูทูบ โดยช่วงหนึ่ง นายพิธา พูดถึงนโยบายสุราก้าวหน้า และรสนิยมการดื่มของตัวเอง พร้อมเปิดเผยชื่อยี่ห้อ และเชียร์สุราชุมชนหลายยี่ห้อ ถือว่าเข้าข่ายเป็นการโฆษณา ต้องห้ามตามกฎหมายหรือไม่
โดยนายศรีสุวรรณ ระบุว่า อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 32 ที่บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง หรือทางอ้อมฯ
ยัน “ทักษิณ” กลับไทยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะลูกสาว เปิดเผยว่า ตอนนี้ใกล้กำหนดที่คุณพ่อ วางแผนจะเดินทางกลับประเทศ ในช่วงเดือน ก.ค. โดยคุณพ่อจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ แม้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของคุณพ่อ
“เพื่อไทย” ไม่มีแผนสำรอง หาก “บิ๊กป้อม” วางมือ
ปิดท้าย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะวางมือทางการเมือง แล้วให้ สส. ไปสังกัดพรรคอื่นว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน และพรรคยังไม่มีแผนสำรอง หากเกิดการเปลี่ยนเรื่องจำนวน สส.โดยขอยืนยันว่า ยังคงทำงานตามแผนที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล วางกันเอาไว้เช่นเดิม
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35