logo เช้านี้ที่หมอชิต

วิษณุ ไม่รู้-ไม่ตอบ ! ปม “พิธา” โอนหุ้นไอทีวี เพราะดูแต่ข่าว ญาญ่า-ณเดชน์

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - ดูเหมือนว่า อาจารย์วิษณุจะเข็ด ในการให้ความเห็นทางกฎหมาย เกี่ยวกับคดีหุ้นไอทีวีของคุณพิธาไปแล้ว เพราะคราวก่ ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

456 ครั้ง
|
07 มิ.ย. 2566
 
เช้านี้ที่หมอชิต - ดูเหมือนว่า อาจารย์วิษณุจะเข็ด ในการให้ความเห็นทางกฎหมาย เกี่ยวกับคดีหุ้นไอทีวีของคุณพิธาไปแล้ว เพราะคราวก่อนที่บอกว่าคดีนี้อาจส่งผลให้ต้องเลือกตั้งใหม่ด้วย หากคุณพิธาขาดคุณสมบัติการเป็น สส. ทำให้โดนหลายฝ่ายแย้งว่าตีความไกลไปหรือเปล่า คราวนี้เมื่อสื่อไปถามความเห็นเพิ่ม ระดับกูรูกฎหมายของรัฐบาล จึงขอปฏิเสธบอกว่าช่วงนี้ตามแต่ข่าวญาญ่า ณเดช
 
ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถ้าพิธา ขายหุ้น ITV ทิ้งไปแล้ว เมื่อปลาย พฤษภาคม 2566 จริง คาดว่าอะไรน่าจะเกิดขึ้น
 
1. เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของ สส. ตามมาตรา 98(3) หากผิด ก็ยังคงผิด เนื่องจาก เป็นคุณสมบัติที่นับในวันสมัคร โดยพรรคก้าวไกล สมัครบัญชีรายชื่อวันที่ 4 เมษายน ซึ่งก่อนวันขายหุ้น
 
2. พิธา ไม่น่าขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกระบวนการลงมติเลือกยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็อาจมีการตีความจากฝ่ายตรงข้าม ว่าต้องนับคุณสมบัติตั้งแต่วันเสนอชื่อ 4 เมษายน 2566
 
3. การขายหุ้นหลังจากสมัคร จึงไม่น่าจะเกิดประโยชน์ในรูปคดี เพราะผิดก็ยังคงผิด หากไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่การขายทำให้คล้ายว่า เรายอมรับว่า น่าจะผิด เลยขายทิ้งก่อนเลือกนายก ฯ
 
4. เครื่องจักรของอำนาจเดิม กำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อต้านทานการเปลี่ยนแปลงของสังคม อย่าได้ประมาทว่า เป็นเครื่องเก่ากำลังผุพัง หรือล้าสมัย เพราะมันยังกำลังทำงานของมัน ไม่เคยหยุดนิ่ง
 
ทางด้าน เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์เช่นกัน ระบุว่า 8 พรรค ต้องรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ภัยคุกคามยังมีรอบด้าน ต้องช่วยกันระวัง ไม่ใช่แข่งกันระแวง แม้มากด้วยอุปสรรค แต่ถือว่า การจัดตั้งรัฐบาล คืบหน้าเป็นลำดับ โดยความในตอนหนึ่งยังระบุว่า คำถามเรื่องอุบัติเหตุการเมือง ยังไม่ถึงเวลาของคำตอบ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร และหากเกิดขึ้น 8 พรรคร่วมต้องหารือกัน โดยพรรคแรกที่ต้องแสดงคำตอบว่าจะเดินต่ออย่างไรคือ ก้าวไกล
 
อย่างไรก็ตาม คุณณัฐวุฒิ ระบุด้วยว่า หลักคือต้องตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ปล่อยให้ประยุทธ์กับพวกอยู่ต่อไม่ได้ จะบอกว่าพากันไปเป็นฝ่ายค้าน ให้เขาตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือซอยเท้ารอไปเรื่อย ๆ จน ส.ว.หมดอำนาจโหวตนายกฯ เราก็ตั้งได้เอง เกรงจะไม่ง่ายเช่นนั้น ถ้ารวมเสียง สส.เพิ่มไม่ได้ เขาไม่จำเป็นต้องตั้งเสียงข้างน้อย แต่จะอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นรัฐบาลเสียงข้างเดียว
 
และบรรทัดหลังจากนี้ที่ คุณณัฐวุฒิระบุ ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้ให้ดีว่ากำลังหมายความถึงอะไร รอจน ส.ว.โหวตนายกฯ ไม่ได้ ก็ไม่มีหลักประกันว่า ให้ประยุทธ์อยู่ต่ออีกเกือบปี แล้วฝ่ายประชาธิปไตยจะยังรักษา 312 เสียงไว้ได้ คนพวกนี้ใช้อำนาจเต็มแน่นอน งบประมาณ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ฯลฯ ระหว่างนั้น กล้วยกับงูจะเจอกัน ของจริงกับของปลอมมีปนกันอยู่ทุกพรรค ฝ่ายเขาขาดอีก 62 เสียง เชื่อว่าจะเดินเกมรวมเสียงตั้งรัฐบาลแข่ง บ้านเมืองจะวุ่นวาย การเมืองถึงทางตัน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากังวล เกมนี้พร้อมไปไกลถึงล้มผลเลือกตั้ง
 
ถูกต้องที่สุดคือให้ พิธา เป็นนายกฯ ตามเสียงประชาชน เกมขัดขวางทั้งหลายพอได้แล้ว ใครอยากอยู่ในการเมืองต่อก็สู้กันในเกม ใครยึดอำนาจมาแล้วประชาชนไม่เอาไม่เลือก ควรกลับบ้าน 8 พรรคร่วมต้องจริงใจช่วยกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น หากมีเหตุเปลี่ยนแปลง วิธีคิดและการตัดสินใจของพรรค ก้าวไกล ในฐานะพรรคอันดับ 1 จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขคำตอบของสถานการณ์
 
คุณณัฐวุฒิ กล่าวถึง การตัดสินใจของพรรคอันดับ 1 ถึง 2 ครั้ง น่าสนใจว่า เมื่อมีเหตุเปลี่ยนแปลง อยากให้พรรคก้าวไกลตัดสินใจอย่างไรกันแน่ จะพลิกมาเสนอแคนดิเดตเพื่อไทยหรือเปล่า 
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/bgWJw-sS2V8