สหพันธ์ขนส่งฯ พบ “วิโรจน์” ส่งมอบข้อมูล “ส่วยสติกเกอร์” เพิ่มเติม

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากร้องเรียนมาหลายยุค หลายสมัย ไม่เคยมีใครช่วยได้ ล่าสุดผู้ประกอบการรถบรรทุก บอกว่า เริ่มเห็นแสงสว่างสีส้มที่ปลายอุโมงค์แล้ว หลังหอบหลักฐานมายื่นให้ ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล เดินหน้าล้างบางส่วยสติกเกอร์ เผยเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคราคาสูงขึ้นวอน สว. หนุนพรรคก้าวไกลฟอร์มรัฐบาล ด้าน วิโรจน์ ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล เตรียมยื่นข้อมูลต่อให้ จเรตำรวจ พร้อมกับจะผลักดันกฎหมายปกป้อง ผู้เปิดโปงเบาะแสการทุจริตด้วย

 

วานนี้ ที่พรรคก้าวไกล นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายผู้ประกอบการขนส่ง 10 สมาคม เข้าร่วมประชุมกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล

 

โดย นายอภิชาต กล่าวว่า ส่วยสติกเกอร์ เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2539 และพัฒนาเพิ่มความรุนแรงมาเรื่อยจนถึงปัจจุบันโดยช่วงปี 2539-2540 สื่อมวลชนเคยเปิดโปงเรื่องส่วยรถบรรทุก ทำให้การเก็บส่วยแบบนั้นหมดไป แต่เปลี่ยนมาเป็นส่วยสติกเกอร์แทน เพื่อเคลียร์ทางในการทำผิดกฎหมาย

 

นายอภิชาติ กล่าวว่า เฝ้ารอวันนี้มา 20 กว่าปี ที่ผ่านมา ร้องเรียนไปทุกนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. ตำรวจทางหลวง จนถูกข่มขู่ มีการให้เบอร์โทรศัพท์จาก นายสิบ นายดาบ ตำรวจชั้นผู้น้อย บอกให้ไปเคลียร์ส่วยกับเจ้านายเอาเอง ถ้าไม่เคลียร์ก็ถูกหาเรื่องให้เสียค่าปรับ ทั้งนี้สหพันธ์ฯ มีรถบรรทุก 400,000 กว่าคัน เราทำเอ็มโอยู ว่า จะอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่รถบรรทุกที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทั้งหมดมีจำนวน 1,500,000 คัน เราเป็นเพียง 1 ใน 3 ของขบวนการนี้ ซึ่งยืนยันว่าสมาชิกไม่มีใครทำผิดกฎหมาย แต่รถบรรทุกที่เหลืออีก 1,000,000 เศษนั้น คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 200,000 คัน ราคาส่วยสติกเกอร์มีตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย คือตั้งแต่ 3,000-20,000 บาท ซึ่งเป็นสติกเกอร์พรีเมียม บรรทุกน้ำหนักได้ไม่จำกัด โดยขณะนี้มีส่วยสติกเกอร์เกลื่อนถนน 40-50 แบบ อีกเรื่องคือรถบรรทุกมีกฎหมายให้วิ่งเลนซ้ายอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้วิ่งเลนขวา ที่ทำได้เพราะมีค่าเคลียร์ 1,000-1,500 บาทต่อเดือน และมีเคลียร์แต่งรถสวยด้วย ทุกพื้นที่ประเทศไทยมีแต่ส่วยซ่อนรูปทั้งนั้นเลย

 

นายอภิชาติ กล่าวว่า ตนไม่เคยติดต่อนายวิโรจน์ แต่นายวิโรจน์หยิบปัญหาที่เป็นช็อตเด็ดสู่สังคมไทย จากที่ผ่านมาเราร้องเรียนไปทุกกรมกอง แต่ไม่เคยมีการแก้ปัญหา ที่ผ่านมามีแต่คำหลอกลวงเรา ทั้งนี้จากใจประชาชนฝากถึง สว. ขอให้ช่วยสนับสนุนการฟอร์มรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ เพราะเราจมปลักอยู่ตรงนี้มา 10 ปี แล้ว

 

ภายหลังการแถลงข่าว นายอภิชาติ ได้มอบเอกสารสติกเกอร์ส่วย รวม 46 แบบ พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศ ให้กับนายวิโรจน์ โดยนายวิโรจน์ ยืนยันว่า รายชื่อทั้งหมดจะถึงมือจเรตำรวจแห่งชาติแน่นอน

 

ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า เวลานี้ทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่ตำรวจทางหลวงเป็นหลัก แต่ยังมีในส่วนของตำรวจภูธร ที่เกี่ยวกับงานจราจร และสำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ บางคน ที่มีส่วนร่วมในเรื่องส่วยด้วย ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนมีส่วนร่วม เจ้าหน้าที่ที่ดีและตั้งใจทำงานก็ยังมีอีกมาก โดยเรื่องนี้ต้องแก้ปัญหาทั้งระบบเพราะความเสียหายเป็น 10,000 ล้าน จากนี้จะไปพูดคุยกับจเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ต่อไป ซึ่งกรณีของตำรวจหากผู้บังคับบัญชาเอาจริงเอาจัง เชื่อว่าระดับชั้นผู้น้อยก็จะไม่กล้าทำความผิดอีก

 

นายวิโรจน์ บอกว่า แนวทางการปราบปรามส่วยพรรคก้าวไกล ต้องดำเนินการใน 4 เรื่อง 1. เรื่องการปราบปราม โดยกฎหมายที่พรรคก้าวไกลต้องดำเนินการแน่ ๆ คือ พ.ร.บ.ปกป้องผู้เปิดโปงเบาะแสการทุจริต ที่จะทำให้เราสาวไส้และทลายได้ทั้งวงจร 2. ระบบคุณธรรมในระบบราชการ ข้าราชการที่ตั้งใจทำงานสุจริตต้องเติบโต ไม่ใช่การวิ่งเต้นซื้อตั๋ว 3. การทบทวนกฎหมายที่ล้าสมัย ที่เป็นช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์ 4. การใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการใช้เอไอจับโกงหรือพิรุธในการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้าง การชั่งน้ำหนักตามด่าน เป็นต้น