5 เรื่องลึกแต่ไม่ลับ ของ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” ที่แฟน ๆ อาจยังไม่เคยรู้!

5,904 ครั้ง

02 มิ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ONE Lumpinee : 5 เรื่องลึกแต่ไม่ลับ ของ “กุหลาบด

เปิดเผย 5 เรื่องราวสุดลึกแต่ไม่ลับ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ ของ “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ยอดมวยหนุ่มชาวสุรินทร์ เจ้าของหมัดซ้ายทรงพลัง ที่กดคู่แข่งหลับมานับไม่ถ้วน

“กุหลาบดำ” มีคิวกลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้งในศึก ONE ลุมพินี 19 วันศุกร์ ที่ 2 มิ.ย.นี้ พบกับ จอมบู๊จากรัสเซีย “อิลยาส มูซาเอฟ” ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 - 145 ป.) แต่ก่อนที่แฟน ๆ จะได้รับชมการแข่งขันในไฟต์นี้ เราจะขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเขาให้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 5 เรื่องราวสุดลึกแต่ไม่ลับต่อไปนี้

#แค่อายุ 8 ขวบ ก็รู้ตัวว่าหมัดหนัก

“ด.ช.สมบูรณ์ มีสิทธิ์ดี” หรือชื่อเล่น “เขียว” รู้จักกีฬามวยไทยครั้งแรกในงานวัดละแวกบ้าน ก่อนจะตกหลุมรักในกีฬาชนิดนี้ทันที ถึงขั้นขอคุณพ่อไปฝึกมวยเมื่ออายุ 8 ขวบ ซึ่งปรากฏว่าหลังฝึกได้เพียงแค่ 1 เดือน “เขียว” ก็ได้รับโอกาสขึ้นชกครั้งแรกในงานฝังลูกนิมิตที่ วัดบ้านจาน จ.สุรินทร์ และประเดิมด้วยชัยชนะ ก่อนจะเริ่มรู้ตัวว่ามีพลังหมัดที่หนักโดยธรรมชาติ หลังไล่น็อกคู่แข่งร่วงระนาวในไฟต์ต่อ ๆ มา

#ชื่อแรกในวงการมวย “เขียวมรกต”

ด้วยเหตุผลที่มีชื่อเล่นว่า “เขียว” ทำให้ในช่วงแรกของชีวิตนักมวย ที่ต้องเดินสายเก็บประสบการณ์มวยไปทั่วอีสาน จึงถูกตั้งชื่อว่า “เขียวมรกต” โดยขึ้นสังเวียนภายใต้สังกัด “ส.กัลยาณี” ซึ่งเป็นค่ายมวยเล็ก ๆ ของคุณพ่อที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาให้ เพราะเห็นลูกชายมีพรสวรรค์ในด้านนี้ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “กุหลาบดำ” นับแต่ย้ายมาอยู่ภายใต้สังกัด “สจ.เปี๊ยกอุทัย” ในช่วงปี 2557

#เป็นลูกศิษย์ของ “สมรักษ์ คำสิงห์”

“เขียวมรกต” ตัดสินใจเดินทางเข้าเมืองกรุง ตามคำชวนของเพื่อนพ่อ ซึ่งทำงานเป็นครูมวยอยู่ที่ค่ายของอดีตฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก “สมรักษ์ คำสิงห์” ซึ่งทำให้เขาได้โอกาสเรียนรู้วิชามวยไทย จากตำนานอย่าง “สมรักษ์” ที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นผู้ฝึกวิชาให้กับ “แสนชัย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่งเป็นหนึ่งในนักมวยในดวงใจ ที่ “กุหลาบ” ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก

หลังฝึกปรือวิชากับ “สมรักษ์” ได้ประมาณ 6 เดือน “เขียวมรกต” ก็ตัดสินใจเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตอันวุ่นวายในเมืองกรุงได้

#คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

หลังย้ายมาใช้สีเสื้อ “สจ.เปี๊ยกอุทัย” ในปี 2557 “กุหลาบดำ” ก็ได้รับโอกาสขึ้นชกเพื่อเก็บประสบการณ์และสร้างชื่อในเมืองกรุงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งช่วงปี 2559-2560 ที่เขาได้รับเสื้อสามารถ จากการระเบิดฟอร์มทำสถิติไร้พ่าย 7 ไฟต์ติดต่อกัน ที่สนามมวยเวทีช่อง 7 สี รวมไปถึงการคว้าแชมป์ประเทศไทย ที่สนามมวยเวทีลุมพินี จนนำมาซึ่งการคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยปี 2560 แม้ว่าเขาจะเป็นยอดมวยฝีมือจัดจ้าน ที่มีแฟนกีฬาชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีแฟนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบเขา จะด้วยบุคลิกส่วนตัว หรือสไตล์การชกก็ตามที

#ดับซ่ายอดมวย “แสงมณี” สองไฟต์ติด

กุหลาบดำ vs แสงมณี (21 ส.ค.63)

ใน ONE รายการใหญ่ “กุหลาบดำ” ถูกประกบคู่ให้พบกับยอดมวยอย่าง “แสงมณี พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในศึก ONE: No Surrender III เมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะสู้ชั้นเชิงของ ”แสงมณี” ไม่ได้ แต่เมื่อถึงวันแข่งขัน “กุหลาบดำ” ได้สยบทุกเสียงวิจารณ์ ด้วยการกดหมัดชัตดาวน์ เอาชนะน็อก “ทารกเงินล้าน” ไปตั้งแต่ยกแรกชนิดหักปากกาเซียนระนาว

ขณะที่ศึกภาคสองของทั้งคู่เกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 2 เมื่อวันศุกร์ ที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา และเป็น “กุหลาบดำ” ที่ยังคงตอกย้ำถึงความเหนือชั้นของตัวเองอีกครั้ง ด้วยการระเบิดฟอร์มไล่ต้อน “แสงมณี” ตลอดทั้งสามยก จนเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์

แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE ลุมพินี 19 ทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.