“บัวเขียว” นักชกมะกันผู้ยกให้เมืองไทยเป็นบ้านหลังที่สอง เตรียมตัวมาเต็มร้อยพร้อมเจอ “ฤทธิเดช” ในศึก ONE ลุมพินี 19 ตั้งใจสำแดงฝีมือให้ทุกคนมีความสุข
“จาลิล บาร์เนส” หรือที่แฟนมวยรู้จักกันดีในชื่อ “บัวเขียว ภูเก็ตไฟต์คลับ” มวยซ้ายฝีมือดี วัย 25 ปี จากสหรัฐอเมริกา เข้าไปนั่งอยู่ในใจแฟนมวยอย่างรวดเร็ว หลังเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 14 ชกสนุกเอาชนะคะแนน “โดราเอมอน” ไปได้ พร้อมโชว์พูดไทยคล่องปร๋อทำให้แฟนมวยที่ได้ดูยิ้มตามกันทั่วหน้า
ในวัย 17 ปี “บัวเขียว” เคยเป็นทั้งพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียนและทำงานในร้านอาหารเม็กซิกัน หวังหาเงินไปเรียนศิลปะการต่อสู้ที่ตัวเองชื่นชอบ จนกระทั่งได้ลองเรียนคลาสมวยไทยเขาก็ตกหลุมรักทันที จากนั้น 2 ปี เขาตามดูยูทูบของนักมวยต่างชาติคนอื่น ๆ ที่ได้โอกาสมาเรียนมวยไทยที่เมืองไทย เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากเดินทางมาสัมผัสมวยไทยต้นตำรับบ้าง
แม้ว่าจะมีคุณแม่ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นของเขาได้ “บัวเขียว” ตัดสินใจเดินทางมาอยู่เมืองไทยครั้งแรกที่ จ.อุบลราชธานีเป็นเวลา 2 เดือน จากนั้นกลับไปบ้านเกิดอีกรอบเพื่อเก็บเงินและมาฝังตัวฝึกมวยที่เชียงใหม่ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่อยู่ใต้สังกัดค่าย ภูเก็ตไฟต์คลับ ในปัจจุบัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ “บัวเขียว” ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยมา 3 ปี แล้ว
ส่วนที่มาของนิกเนม “บัวเขียว” ได้มาตั้งแต่ตอนซ้อมมวยอยู่ที่อุบลราชธานี มีครูมวยเรียกเขาว่า “บัวเขียว” เพราะว่าดูจากสีผิวที่คมเข้มแถมยังสอดคล้องกับชื่อของ “บัวขาว” นักชกคนดังของไทยด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ดูปลื้มกับชื่อเรียกนี้ไม่น้อย และอยากเรียนรู้ภาษาไทยด้วยตัวเอง
เหตุเกิดจากในช่วงโควิดแพร่ระบาดทำให้ “บัวเขียว” ออกไปไหนไม่สะดวก เลยเริ่มเรียนภาษาไทยจากยูทูบ ยอมรับว่าเป็นงานยากแต่ภาษาไทยมีความสละสลวย แล้วก็ลึกมากกว่าภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่มีคำบ่งบอกถึงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวสามารถ พูด, ฟัง, เขียนและอ่าน ได้ครบถ้วน
ทั้งนี้การย้ายมาอยู่กับ ภูเก็ตไฟต์คลับ ทำให้เส้นทางอาชีพมวยไทยของ “บัวขาว” เปิดกว้างมากขึ้น ได้ฝึกซ้อมและขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังหลายคน ที่สำคัญคือนำมาซึ่งการได้โชว์ฝีมือในศึก ONE ลุมพินีด้วย
“ได้มาชกที่ ONE ลุมพินี ครั้งแรกผมรู้สึกดีมากครับ ผมชอบที่มีทีมงานทุกฝ่ายคอยดูแลเป็นอย่างดี ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่ามาก ส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจผลการชกมากเท่าไหร่ แค่ทำตามที่ซ้อมผลงานจะออกมาดีเอง ไฟต์ที่ชนะ โดราเอมอน ผมยังไม่ค่อยพอใจผลงานเท่าไหร่ กลับมาคราวนี้น่าจะทำได้ดีกว่าเดิมครับ”
กลับมารอบนี้ “บัวเขียว” ต้องเจอ “ฤทธิเดช ส.สมหมาย” มวยเชิงดีที่เก๋าเกมกว่า ในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต (133 ป.) ทำให้เขาต้องพลิกตำรามุ่งมั่นซ้อมหนักหาวิธีไว้รับมืออย่างเต็มที่ โดยเจ้าตัวยืนยันว่าจะชกให้สนุกเพื่อสร้างความประทับใจให้แฟนมวยอย่างแน่นอน
“ฤทธิเดช เขาเป็นนักมวยที่มีไอคิวมวยดีครับ สามารถแก้เกมเปลี่ยนสไตล์ได้หลายอย่าง ไฟต์นี้ผมเลยต้องเตรียมตัวหนักมากครับ ผมต้องพยายามทำให้เขาหมดแรงและคิดไม่ทันว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ถือเป็นคู่ชกที่มีเกรดฝีมือสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยครับ ตอนนี้ผมพร้อมที่จะโชว์ฝีมือเต็มที่แล้วครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 19 วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายนนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง
THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น., Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ)