เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้ 1 มิถุนายน คือ วันเริ่มต้นของการเฉลิมฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เราจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองร่วมกับทั่วโลก ที่ถือเอาเดือนนี้เป็นหมุดหมายเดียวกันในการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียม
ไปดูบรรยากาศ Pride Month ไทยแลนด์ปีก่อน มีพาเหรดที่ถนนสีลม คึกคักมาก ได้รับเสียงตอบรับและมีส่วนร่วมจากผู้คนหลากหลายวงการ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเป็นผู้ว่าผู้ว่ากรุงเทพมหานคร สด ๆ ใหม่ ๆ ก็มา แด๊ดดี้ศิธา เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ก็มา แน่นอนว่า พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ก็อยู่ในขบวนนี้ด้วย
แต่ต้องบอกว่าภาพแบบนี้ กว่าที่ขบวนของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศจะได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างในทุกวันนี้ ต้องผ่านอะไรมามากมาย เรามีโอกาสพูดคุยในเรื่องนี้กับ คุณปกป้อง ชานันท์ ยอดหงษ์ นักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ที่มีผลงานเขียนเป็นที่กล่าวถึงในหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น นายใน, หลังบ้านคณะราษฏร : ความรัก, ปฎิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง ปัจจุบัน คุณปกป้อง ขยับบทบาทของตัวเองเป็นนักการเมืองเต็มตัวร่วมกับพรรคเพื่อไทย รับภารกิจดูนโยบายความหลากหลายทางเพศ ชาติพันธุ์ หรือประชาธิปไตยเชิงอัตลักษณ์ ไปฟังเรื่องราวที่คุณปกป้องบอกว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ง่ายและเราเดินทางกันมาไกลกว่าเดิมมากแล้ว
นายชานันท์ อธิบายว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ความหลากหลายทางเพศในประเทศไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น ทั้งจากกระแสโลก หลายประเทศมีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องเพศสภาพ สีผิว ความแตกต่างทางกายภาพของแต่ละบุคคล ทำให้เราได้รับกระแสนั้นมาด้วย ขณะเดียวกันในไทยเองก็มีกลุ่มภาคประชาสังคมมากมายที่ขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้มาอย่างยาวนาน รวมถึงมีนักวิชาการที่ผลิตผลงาน สร้างความรู้ ความเข้าใจ จึงทำให้เกิดความตระหนักและยกระดับเพดานในเรื่องนี้มากขึ้น
สำหรับบทบาทในฐานะนักการเมือง นายชานันท์ บอกว่า หลังเลือกตั้ง แม้พรรคเพื่อไทย จะได้คะแนนมากน้อยเท่าไหร่ก็ดีใจมาก ๆ ที่พรรคฝั่งประชาธิปไตย หรือฝั่งประชาชาชนชนะเผด็จการได้ เพราะเมื่อมีอุดมการณ์เดียวกันก็คุยกันไม่ยาก อย่างเรื่องการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือการแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ว่าด้วยการแต่งงานที่คัดง้างกับกฎหมายคู่ชีวิตในสภา ฉบับแรกมีหลักการในการสร้างความเสมอภาค แต่ฝั่งที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมใช้วิธีผลักดันกฎหมายคู่ชีวิตเข้ามา เพื่อไม่ยอมไปแก้ที่ต้นตอของการเลือกปฏิบัติ แต่กลับเป็นการเลือกเลือกปฏิบัติเสียเอง ด้วยการให้กลุ่มคนรักเพศเดียวกันไปใช้กฎหมายอื่น ไม่ให้มาใช้กฎหมายร่วมกันกับคนรักต่างเพศ ในภาพทางการเมืองกฎหมายสมรสเท่าเทียมถูกผลักดันมาจากกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพ ดังนั้น ชัยชนะของฝั่งประชาธิปไตยก็คือความหวังของกฎหมายฉบับนี้ที่จะผ่านสภา นอกจากนี้ นายชานันท์ ยังแย้มกับเราไว้ด้วยว่า สำหรับงานไพรด์ปีนี้ พรรคเพื่อไทย เตรียมพร้อมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และเตรียมเดินทางไปฉลองทุกเมืองที่มีการจัดพาเหรดไพรด์ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม