จากเหตุเพลิงไหม้ตู้น้ำมันหยอดเหรียญในตลาด จนลุกลามเข้าไปไหม้ร้านโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างเคียง ทำให้ร้านและสินค้าในร้านเสียหายทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ทำเอาเจ้าของร้านถึงกับเข่าทรุดเมื่อเห็นร้านตัวเองถูกไฟไหม้ต่อหน้าต่อตา ล่าสุดเจ้าของตลาดซึ่งเป็นเจ้าของตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามจริงให้แก่ร้านโทรศัพท์มือถือแล้ว
วันที่ 1 มิ.ย. 66 คุณภาวิณี ตาลอ่อน (ตุ่น) เจ้าของร้านที่ถูกไฟไหม้ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นวันเกิดของตน และกำลังรับคำอวยพรวันเกิดจากแม่ จากนั้นมีคนที่ตลาดโทรมาบอกว่าร้านของตนไฟไหม้ ตอนแรกไม่เชื่อเนื่องจากคิดว่าอำกันเล่นในวันเกิด แต่เมื่อมีคนโทรมาถี่ขึ้นจึงตัดสินใจออกไปที่ร้าน พบว่าไฟกำลังไหม้ร้านของตัวเองอยู่จริง ๆ
คิดว่าต้นเพลิงมาจากตู้น้ำมัน เพราะก่อนหน้านี้เคยคิดไว้แล้วว่าสักวันจะต้องเกิดเหตุการณ์นี้ เนื่องจากเจ้าของตลาดเอาตู้น้ำมันหยอดเหรียญมาตั้งไว้ข้าง ๆ ร้านของตน จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะตลอด 2 ปีที่มีตู้ตั้งอยู่ข้างร้านก็จะเห็นน้ำมันหกจนมีกลิ่นแรงอยู่เป็นประจำ ประกอบกับบริเวณโดยรอบเป็นตลาดที่อาจมีการทำให้เกิดประกายไฟจากการทำอาหาร ซึ่งมีความเสี่ยงมาโดยตลอด
คุณปิติศักดิ์ เถาว์อ้วน (เหน่ง) สามีเจ้าของร้านที่ถูกไฟไหม้ เล่าต่อว่า ร้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง หรือสินค้าที่อยู่ภายในร้าน มีทั้งเคสมือถือ ฟิล์มกันรอย โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ซ่อมโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 430,000 บาท
คุณภาวิณี เล่าต่อว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา จ่ายค่าเช่ากับเจ้าของตลาดตรงตามที่กำหนดตลอด ยืนยันไม่เคยมีปัญหากับเจ้าของตลาด ส่วนตู้น้ำมันเป็นของเจ้าของตลาดที่เอามาวางไว้ระหว่างช่องว่างที่ร้านของตน หลังจากที่เกิดเหตุตนได้ทักไปหาเจ้าของตลาดด้วยความร้อนใจ เจรจาเบื้องต้นจะทำร้านให้ใหม่ ส่วนของที่เสียหายจะต้องรอประเมินอีกครั้ง คุณปิติศักดิ์ เล่าเสริมว่า ฝ่ายเจ้าของตลาดมีสามีเป็นข้าราชการ จึงอยากให้ชดใช้ด้วยความจริงใจ แต่ทราบมาว่าเจ้าของตลาดจะใช้ทนายมาช่วยในกรณีนี้ ตนจึงต้องการที่พึ่งเช่นเดียวกัน และตัดสินใจมาร้องเรียนกับรายการถกไม่เถียง
ทนายนิติธร แก้วโต (ทนายเจมส์) ทนายความ ให้คำแนะนำในมุมกฎหมายว่า ความประมาทที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ถือว่าเป็นคดีอาญา ตู้น้ำมันหยอดเหรียญก่อนที่จะติดตั้งจะต้องขออนุญาต ต้องมีมาตรฐาน และต้องมีการเว้นระยะห่างจากสิ่งรอบข้างอย่างน้อย 3 เมตร ซึ่งทั้งหมดนี้คือความประมาทที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ส่วนมูลค่าความเสียหายผู้เสียหายจะต้องมีหลักฐานว่าทรัพย์สินเสียหายจริง จึงสามารถเรียกร้องค่าเสียหายของทรัพย์สินได้ นอกจากนี้ยังมีค่าขาดประโยชน์จากการปิดร้านก็สามารถขอเยียวยาได้ ถ้าหากมีการเจรจาต่อรองชดเชยค่าเสียหายจากเจ้าของตลาดที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ สามารถเป็นเหตุให้บรรเทาโทษได้
ทางด้านเจ้าของตลาดชี้แจงผ่านทีมงานรายการถกไม่เถียงว่า ยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่อย่ามาออกข่าวให้ร้ายกัน พร้อมเยียวยาค่าเสียหายตามจริง แต่ขอจ่ายเป็นราคาต้นทุนที่ไม่รวมกำไร ส่วนทางด้านผู้เสียหายยืนยันว่าพร้อมเจรจา ยินดีที่จะรับการเยียวยาและจบเรื่อง โดยทางรายการถกไม่เถียงจะคอยดูแลช่วยเหลือต่อไป
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35