โหดจริง คนในแฉรับไม่ได้กับสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งที่สระบุรี ทารุณเด็ก จับกล้อนผม-รองเท้าตบหน้า ขณะที่ผู้บริหารมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แต่ไม่มีความคืบหน้า เพราะพี่เลี้ยงเด็กที่ก่อเหตุเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย มีการสร้างพยานเท็จ โยนว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เด็กกระทำกันเอง
กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพเด็กหญิงถูกปิดปาก มัดมือ มัดเท้า นั่งบนชักโครก และภาพเด็กหญิงนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ในห้องอาบน้ำ พร้อมระบุข้อความว่า ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิต ต้องเผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด ฝากสื่อด้วยนะคะ ยินดีให้ข้อมูล ฝากแชร์เพื่อเป็นสะพานบุญให้เด็กหลายร้อยชีวิตด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์คลิปเสียง จะได้ยินเสียงเด็ก ๆ พูดว่า เขาจับหนูลงหลุม บางอันก็มีน้ำ บางอันก็ไม่มีน้ำ เขาทั้งกัดหนูทั้งตีหนู ทั้งเอามีดมาเชือดหนู
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊ก และได้พูดคุยกับบุคลากรที่ทำงานด้านในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว คือ นางสาวเปิ้ล (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เห็นในโพสต์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งตนเพิ่งมาทำงานสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ทันทีที่เข้ามาถึงก็สังเกตเห็นความผิดปกติ เนื่องจากเด็กที่นี่ดูไม่ร่าเริง ไม่กล้าสบตาผู้ใหญ่ เวลาพูดคุยจะถามคำตอบคำ หวาดกลัวพี่เลี้ยง
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเด็กมาทำแผลที่ห้องพยาบาล ตนสังเกตเห็นว่ามีบาดแผลบริเวณขา จึงถามเด็กว่าโดนอะไรมา เด็กบอกว่า โดนแม่ตี ซึ่งแม่ที่เด็กเรียกนั้นคือพี่เลี้ยงเด็ก ตนเองเคยรายงานผู้ใหญ่ให้ทราบ พี่เลี้ยงอ้างว่าเด็กดื้อ จำเป็นต้องตี
หลังจากนั้นตัวเองได้คลุกคลีกับเด็กมากขึ้น จนเด็กเริ่มไว้ใจ และมาเล่าข้อมูลให้ฟังว่า พี่เลี้ยงที่ทำทารุณกับเด็กนั้นมีหลายคน ที่ผ่านมาจะโดนพี่เลี้ยงลงโทษด้วยวิธีการหลากหลาย ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น เตะจนตกบันได ถีบตกเก้าอี้ ถีบอัดตู้ ขังในห้องมืด แล้วโยนตุ๊กตาน่ากลัวให้เด็ก นอกจากนี้ยังมีการเอาเด็กไปแช่ในท่อน้ำทิ้ง ซึ่งในนั้นมีน้ำสกปรก มีทั้งแมลงสาบ สัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเด็กจะโดนจนชิน และจะมีคำเรียกติดปากว่า โดนลงหลุม ซึ่งความโหดร้ายยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เด็กบางคนยังโดนขังให้นอนในห้องน้ำ บางคนโดนมัดมือมัดขา และปิดปาก เด็กบางคนโดนจับโกนผม สร้างความอับอายให้แก่เด็ก ๆ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสระบุรี (พม.) พร้อมตำรวจ สภ.พระพุทธบาท ได้ลงพื้นที่สถานสงเคราะห์ดังกล่าว สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏภาพเด็กโดนมัดมือมัดเท้าเกิดขึ้นจริง แต่เป็นเหตุการณ์ที่เด็กรุ่นพี่กระทำต่อเด็กรุ่นน้อง โดยอาศัยจังหวะช่วงที่พี่เลี้ยงเผลอไปเข้าห้องน้ำประมาณ 10 นาที ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรในสถานสงเคราะห์ แต่เป็นการกระทำระหว่างเด็กด้วยกันเอง
ส่วนกรณีปรากฏภาพเด็กโดนโกนผมนั้น ขอชี้แจงว่าเด็กคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคผิวหนัง หรือ โรคชันนะตุ ซึ่งภายในสถานสงเคราะห์มีเจ้าหน้าที่พยาบาลในการรักษา การโกนผมเป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษา ไม่ได้เป็นการลงโทษเด็กแต่อย่างใด แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากมีเจ้าหน้าที่ภายในสถานสงเคราะห์ทำหนังสือรายงานขึ้นมา เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้มีการแยกตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเด็ก
ขณะเดียวกันทีมสหวิชาชีพ พร้อมนักสังคมสงเคราะห์ และตำรวจ ได้นำเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้หากมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่ามีเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรภายในมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมเด็ก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งย้ายผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ดังกล่าวไปปฏิบัติราชการที่ส่วนกลาง พร้อมนัดประชุมด่วนกับผู้บริหารทุกกรม เพื่อเตรียมจัดระบบสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศใหม่ในการดูแลผู้รับบริการทุกกลุ่มเป้าหมาย
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35