รุมแฉ ! อดีต สส. หลอกทำงาน เบี้ยวจ่ายเงินเกือบ 100 ล้านบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังโดนอดีต สส. และอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดัง หลอกให้ทำงาน แต่เบี้ยวไม่จ่ายเงิน ความเสียหายคาดเกือบ 100 ล้านบาท

 

โดย นายทรงกฤษดากร ไตรรัตนรังษี ตัวแทนผู้เสียหาย เล่าว่า อดีต สส. ตัวย่อ อ. เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในรัฐบาลชุดก่อน โดยเป็นพรรคที่มีสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มากกว่าพรรคการเมืองใหญ่ ๆ บางพรรค สามารถส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งได้มากกว่า 300 เขตทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันพรรคนี้ ถูกยุบไปแล้ว แต่แม้จะเป็นถึงหัวหน้าพรรค กลับมีพฤติการณ์หลอกลวง และไม่จ่ายเงินหลายรายการ

 

เช่น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา อดีต สส. อ. ได้จัดงานวันเกิดแบบโต๊ะจีน 4,000 ที่นั่ง ในจังหวัดสระบุรี มีการจ้างทีมงานมาจัดงาน, จัดไฟ, จัดกิจกรรมการละเล่นคล้ายงานวัด แต่เมื่อเลิกงานกลับมีเพียงวงดนตรีที่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะเรียกเก็บเงินก่อนขึ้นแสดง อีกทั้งยังไปบอกให้พ่อค้าแม่ค้านำเสื้อผ้าไปแจกจ่ายให้ผู้ร่วมงาน และติดต่อร้านค้าข้าวสาร สั่งข้าวสาร 5,000 ถุงไปแจก บอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเอง แต่สุดท้ายก็เบี้ยวไม่จ่ายเงิน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในงานดังกล่าว กว่า 500,000 บาท

 

นอกจากนี้อดีต สส. อ. ยังเป็นหัวหน้าพรรค ที่มีการเบิกถอนงบฯ จาก กกต. ไปรวมกว่า 17.7 ล้านบาท ซึ่งนำไปใช้จ่ายอะไร ทางกรรมการพรรคไม่เคยทราบ ไม่เคยมีการพูดคุยในการประชุมพรรค แต่กลับมีการปลอมเอกสารการประชุมส่ง กกต. ว่ามีการพูดคุยเรื่องการนำเงินดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง จนสุดท้าย กกต. มีหนังสือทวงหนี้มาถึงกรรมการพรรคกว่า 60 คน เพราะติดต่อหัวหน้าพรรคไม่ได้ ยังไม่นับที่ อดีต สส. อ. เบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าหาเสียงให้กับผู้สมัครแต่ละเขตกว่า 300 เขต ความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท และเบี้ยวจ่ายเงินเดือนพนักงาน แม่บ้านและลูกจ้างที่ทำงานในที่ทำการพรรค 7 เดือน จนหลายคนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินประทังชีวิต ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน และถูกยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขี่มาทำงาน รวมความเสียหายแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคดีของผู้เสียหายทั้งหมด มีการแจ้งความไว้ในสถานีตำรวจท้องที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ก็จะประสานไปติดตามความคืบหน้าคดีกับทางตำรวจให้ก่อน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย