logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

“ทนายกฤษณะ” ถอนตัว ! ไม่เป็นทนายให้ “แอม” ด้าน “ทนายพัช” มากองปราบฯ รับทราบข้อกล่าวหา

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : เมื่อวานนี้ ทนายกฤษณะ หรือทนายแม๊ ได้มาออกรายการ ถกไม่เถียง พร้อมประกาศว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก “แอม ไซยาไนด์” ให้ทำคดีให้ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

439 ครั้ง
|
26 พ.ค. 2566
เมื่อวานนี้ ทนายกฤษณะ หรือทนายแม๊ ได้มาออกรายการ ถกไม่เถียง พร้อมประกาศว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก “แอม ไซยาไนด์” ให้ทำคดีให้ และตนเองก็ตอบตงลงที่จะทำคดีให้ แต่มาเมื่อเช้านี้ ล่าสุด ทนายกฤษณะ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถอนตัวจากการเป็นทนายของแอมแล้ว
 
ทนายกฤษณะถอนตัว ไม่เป็นทนายให้แอมแล้ว
 
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คดีแอม ผมทนายกฤษณะ ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของแอม”
 
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามทนายกฤษณะ เช้านี้ ยอมรับว่า ตนได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายแอมจริงเมื่อคืนนี้ เหตุผลเพราะแอมไม่รับสารภาพในคดีของก้อย
 
“จริง ๆ แล้วเขาบอกผมตอนที่เข้าไปเยี่ยม เมื่อตอนวันที่ 24 พฤษภาคมแล้วครับ แต่ผมมานั่งตรึกตรองดูอีกครั้งว่าเขาไม่รับสารภาพ แล้วผมอธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ฟังแล้ว เขาบอกว่าจะยังสู้ต่อ ผมก็เลยตัดสินใจถอนเมื่อคืนนี้ครับ”
 
ทนายพัช เดินทางมากองปราบฯ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
 
และเมื่อช่วง 10 โมงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ “ทนายพัช” ทนายของแอม ไซยาไนด์ ได้เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในคดี ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน
 
ต่อมาเวลาประมาณบ่ายโมง ทนายพัช พร้อมด้วยนายไชยา คุ้มอ่ำ “กลุ่มทนายใจดี” ทนายความที่ปรึกษากฎหมายของทนายพัช ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่เห็นหรือเกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินของนางสาวก้อย ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ เป็นการทำหน้าที่ของทนายความโดยสุจริตตามกระบวนการกฎหมาย ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ได้ให้คำแนะนำใด ๆ กับนางแอมให้ส่งกระเป๋าให้นางสาวแก้ว
 
โดยนายไชยา เผยว่าการออกหมายเรียกทนายพัชให้มารับทราบข้อกล่าวหา เชื่อว่าเป็นการเตะตัดขากัน ให้พุ่งเป้าไปที่ทนายพัช และพยายามตัดสิทธิ์ไม่ให้ทนายพัชเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ จึงอยากขอโอกาสให้ทนายพัชเข้าไปช่วยเหลือลูกความอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของลูกความที่จะเลือกทนายเข้ามาช่วยเหลือคดี
 
ด้านทนายพัช ยืนยันว่าตนเองไม่เคยส่งกระเป๋าให้นางสาวแก้วและไม่เคยให้คำแนะนำใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้และไม่เคยรู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมเลย ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นการซัดทอดมาจากผู้ต้องหาคนอื่น (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนายอ๊อฟอดีตสามีนางสาวแอม) ซึ่งไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไรที่ซัดทอดมาถึงตนเอง
 
ส่วนประเด็นที่ว่าเคยรู้จักนางสาวแก้วมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ทนายพัชปฏิเสธตอบคำถามกับสื่อมวลชน ขอไปตอบในสำนวน และตอนนี้ยืนยันว่าตอนนี้ตนเองยังเป็นทนายความหลักให้นางแอมอยู่ ส่วนจะมีทนายความคนไหนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องคดีด้วยก็สามารถทำได้ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถแต่งตั้งทนายความคนอื่นเพิ่มได้ แต่ต้องสอดคล้องกับทนายหลัก และทนายหลักต้องยินยอม ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีทนายความคนอื่นได้เข้าไปขอคัดสำนวนและขอเข้าไปพบนางแอมหลายครั้งและเบิกตัวมาขึ้นศาล ซึ่งทนายคนดังกล่าวไม่ได้ขอมาทำงานร่วมด้วย แต่ตนขอไม่พาดพิงถึง
 
ส่วนประเด็นที่ว่านางสาวแอมจะมีการฟ้องหมิ่นประมาทบุคคลต่าง ๆ ทั้งพิธีกรและสื่อมวลชน ทนายพัชเผยว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างหารือกับกลุ่มทนายใจดี แต่ยืนยันว่าขณะนี้เตรียมจะฟ้องร้องอย่างแน่นอน ซึ่งตนยืนยันว่าการทำหน้าที่ของทนายความมีหน้าที่ไปศาล ไม่ใช่มีหน้าที่ไปออกสื่อ
 
ส่วนการฟ้องร้องตำรวจ นอกจากมาตรา 157 แล้ว จะใช้มาตราใหม่คือ พ.ร.บ.อุ้มหาย เข้ามาเพิ่มเติม ส่วนทนายพัชเองก็จะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทกับสื่อมวลชนบางสำนักด้วย
 
ส่วนกระสังคมที่โจมตีตนเองในประเด็นต่าง ๆ มองว่าเป็นการทำคดีสวนกระแสสังคม เป็นปกติที่คนจะมองว่าตนเป็นคนไม่ดี แต่ยืนยันว่าไม่กังวลและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และในสัปดาห์หน้าตนจะเข้าพบนางสาวแอมอีกครั้งเพื่อสอบถามแนวทางการดำเนินคดีเพิ่มเติม
 
ทางด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของนางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาในคดีวางยาฆ่าชิงทรัพย์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาในคดี”ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน” กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ จากนั้นเมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้น เบื้องต้นที่ตนได้คุยกับพนักงานสอบสวน ก็จะมีการให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อใช้บรรดทัดฐานเดียวกันกับรองอ๊อฟ อดีตสามีแอม เนื่องจากมีฐานความเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม นอกจากนี้ ในส่วนของพนักงานสอบสวน ตนได้กำชับว่าในอาทิตย์หน้าจะไล่เรียงและสรุปสำนวน เพื่อเตรียมส่งทั้ง 15 สำนวนให้พนักงานอัยการ ยืนยันว่ามั่นใจในพยานหลักฐาน
 
เมื่อถามว่าหากมีการปล่อยตัวทนายพัชชั่วคราวในชั้นสอบสวน จะมีการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่นั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า หากเขาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและไปยุ่งกับพยานหลักฐาน เราก็ต้องถอนการประกันตัวชั่วคราว ซึ่งเขาเป็นทนายความคงรู้อยู่แล้ว และในคดีนี้ใครก็ตามที่กระทำผิดกฎหมาย หรือให้การช่วยเหลือ จะพูดอะไรก็พูดได้แต่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อีกทั้งตำรวจทำงานด้วยความรอบคอบ ทำงานตามพยานหลักฐาน เราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร และเรื่องก็ใกล้จบแล้ว และพรุ่งนี้ช่วงเย็นตนยังมีประชุมกับคณะทำงานที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จังนครปฐม เเละในวันเสาร์-อาทิตย์ พนักงานสอบสวนก็ไม่หยุด เพื่อขึ้นโครงสำนวนคดีให้เสร็จสิ้นเตรียมส่งอัยการพิจารณาสั่งคดี
 
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 29 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนได้นัดเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อหารือพูดคุยเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมที่จำหน่ายสารไซยาไนด์
 
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี ทนายพัช  ให้สัมภาษณ์ว่าจะเตรียมฟ้องกลับบิ๊กโจ๊ก ใน พ.ร.บ.อุ้มหาย ฐานบังคับขู่เข็นให้ แอม รับสารภาพ ตนเองยืนยันว่า การสอบปากคำ แอม ทุกครั้งที่ไปในเรือนจำ เป็นการร้องขอของผู้ต้องหาเอง และยืนยันทุกครั้งที่สอบ ไม่ได้ข่มขู่ หรือบังคับขู่เข็นอะไร เพราะปัจจุบัน ตัวของแอมเองก็ยังไม่ได้รับสารภาพ ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอยู่เลย
 
ส่วน พ.ร.บ.การป้องกัน อุ้มหาย และซ้อมทรมาน สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับตำรวจนอกรีด แต่ไม่ใช่คณะทำงานของคดีนี้ เพราะคดีดังกล่าวตั้งคณะทำงานขึ้นมาในรูปแบบคณะทำงาน เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ ยึดผลประโยชน์ของประชาชน ประเทศเป็นหลัก แต่หากตัวของ ทนายพัช ยืนยันว่าจะฟ้องตน ก็ฟ้องไป แต่สุดท้ายก็ต้องจำนนต่อหลักฐาน เพราะคดีนี้หลักฐานไกลแล้ว แต่หากหลักฐานไม่เพียงพอศาลคงไม่ออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงทนายด้วย “กฎหมายก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เวรกรรมก็มีอยู่จริง” ส่วนตนไม่คิดจะฟ้องกลับ เพราะไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งต่อกัน
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/gTcagKpdiCE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง