ห่างหายจากสังเวียนไปพักใหญ่สำหรับ “The Hurricane” สมิลลา ซันเดลล์ สาวน้อยวัย 18 ปีจากสวีเดนผู้เคยสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก ONE อายุน้อยที่สุดขององค์กรเมื่อปีที่ผ่านมา โดยครั้งนี้เธอพร้อมกลับมาโชว์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แคตช์เวต 128 ป. กับสาวขาลุย “มิลานา เบียโลกลิช” จากเซอร์เบียร์ ในศึก ONE ลุมพินี 18 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 26 พ.ค.นี้
“สมิลลา” รู้จักมวยไทยครั้งแรกตอนอายุ 10 เมื่อครั้งเธอติดสอยห้อยตามพ่อแม่มาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทยและได้ทดลองหัดมวยแบบพอหอมปากหอมคอในฐานะนักท่องเที่ยว แต่เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ครอบครัวของเธอต้องย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโอกาสให้ “สมิลลา” กลับไปฝึกมวยอย่างจริงจัง และได้ขึ้นสังเวียนมวยไทยครั้งแรกในวัยเพียง 12 ขวบ
แม้จะไม่ได้คิดจริงจังที่จะเป็นนักมวยอาชีพ แต่ผลงานแกร่งเกินวัยที่สามารถปราบนักมวยหญิงรุ่นใหญ่มากประสบการณ์หลายต่อหลายครั้งทำให้เธอค้นพบพลังในตัวเองและเริ่มเสพติดความหอมหวานของชัยชนะ จากนั้น “สมิลลา” ก็เริ่มเดินสายล่าชัยชนะในเวทีท้องถิ่นทั่วภาคใต้จนหาคู่ชกแทบไม่ได้
“สมิลลา” เริ่มฝันใหญ่ที่จะได้ขึ้นชกในเวทีระดับสูงขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนักสู้หญิงขวัญใจชาวไทย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ที่เธอชื่นชอบและยกให้เป็นไอดอลในดวงใจ และจากการสนับสนุนของคุณพ่อของเธอ “สมิลลา” จึงได้เข้ามาอยู่ใต้ชายคาค่ายใหญ่อย่างแฟร์เท็กซ์ และได้ “แสตมป์” เป็นคู่ซ้อมให้เป็นประจำด้วย
หลังจากสังกัดค่ายใหญ่ “สมิลลา” ได้โอกาสลงแข่งบนเวทีระดับโลก ONE และแจ้งเกิดตั้งแต่ไฟต์เปิดตัวเมื่อเดือน ก.พ. 65 จากนั้นก็คว้าฟาสต์แทร็กขึ้นชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวตที่ว่างอยู่ทันที
ในไฟต์นั้น “สมิลลา” เผชิญหน้ากับ “แจ็กกี บุนตัน” นักสู้สาวแกร่งจากแดนมะกัน โดยเธอโชว์ฟอร์มดุเดินไล่บี้ แจ็กกี แบบไม่เกรงใจความเก๋า และสามารถเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ นั่งแท่นราชินีมวยไทย รุ่นสตรอว์เวตเป็นคนแรกของ ONE พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดในวัยเพียง 17 ปี
แต่หลังจากไฟต์นั้น “สมิลลา” ได้รับบาดเจ็บจนต้องกลับไปพักฟื้นและร้างสังเวียนไปกว่า 1 ปี มาถึงตอนนี้ เธอพร้อมแล้วที่จะกลับคืนสังเวียน โดยตอบรับความท้าทายใหม่ ขอข้ามสายมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรก
แม้เธอต้องเจอกับคู่แข่ง “มิลานา” ที่ผ่านประสบการณ์การชกคิกบ็อกซิ่งมามากกว่า แต่เธอก็พร้อมใช้ประสบการณ์ชกมวยไทยที่ผ่านมาร่วม 40 ไฟต์ มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ และจะขอใช้ไฟต์นี้อุ่นเครื่องเพื่อเตรียมขึ้นป้องเข็มขัดมวยไทยต่อไป
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นและกังวลบ้างสำหรับการชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรก และ มิลานา ก็อาจได้เปรียบด้านประสบการณ์การชกคิกบ็อกซิ่งมากกว่า แต่ฉันคิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ เพราะฉันเชื่อว่าฉันมีประสบการณ์มวยไทยพอสมควรซึ่งเอามาปรับใช้ได้ เพราะว่ามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งก็คล้าย ๆ กัน และฉันก็ไม่ต้องฝึกซ้อมอะไรเป็นพิเศษมากนัก แค่ระวังไม่ใช้ศอกและปล้ำเท่านั้นเองค่ะ”
“เท่าที่ฉันเคยดูการชกของ มิลานา เธอเป็นมวยที่ดุดัน แข็งแรง ใช้หมัดและลูกเตะล่างได้ดี และมีความเร็วด้วยค่ะ แต่ฉันสูงกว่าเธอ ฉันจะใช้ช่วงชกที่ได้เปรียบให้เป็นประโยชน์ แผนการชกเดียวที่มีคือ ต้องชนะ และชกให้ดุดันค่ะ หวังว่าฉันจะชนะน็อกได้ในครั้งนี้ แต่ฉันรู้ว่าเธอแข็งแกร่งมาก คิดว่าเราคงได้สู้กันจนครบยกค่ะ”