ย้อนสถิติ 9 ไฟต์ไร้พ่าย “รีเกียน เออร์เซล” ก่อนป้องกันเข็มขัดมวยไทย ในศึก ONE Fight Night 11

1,017 ครั้ง

23 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ONE : ย้อนสถิติ 9 ไฟต์ไร้พ่าย “รีเกียน เออร์เซล”

ย้อนดูเส้นทาง 9 ไฟต์ไร้พ่ายของ “The Immortal (นักฆ่าอมตะ)” รีเกียน เออร์เซล แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง และมวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) ก่อนป้องกันเข็มขัด มวยไทย กับผู้ท้าชิงหน้าใหม่ “ดีมิทรี เมนชิคอฟ” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE FIGHT NIGHT 11 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. 66

เพื่อเป็นการโหมโรงก่อนที่ศึก ONE Fight Night 11 จะเริ่มขึ้น เราจะขอพาผู้อ่านนั่งไทม์แมชีน ย้อนกลับไปดู 9 ไฟต์ไร้พ่ายที่ผ่านมาของซูเปอร์สตาร์ชาวดัตช์-ซูรินามรายนี้

#1 เปิดตัวใน ONE ด้วยชัยชนะคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในประวัติศาสตร์

“รีเกียน” เปิดตัวใน ONE ครั้งแรก เมื่อเดือนเมษายน 2561 และสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกีฬาคนแรกที่สามารถคว้าชัยชนะในไฟต์คิกบ็อกซิ่งที่ ONE จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของ ONE ด้วยการเอาชนะ “แบรด ริดเดล” ในศึก ONE: HEROES OF HONOR ด้วยคะแนนเอกฉันท์ จากการใช้ลูกเข่าดักทำคะแนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสามยก

#2 แจกน็อกสนั่นสังเวียนในการปรากฏตัวครั้งที่สอง

“รีเกียน” สามารถเก็บชัยชนะแบบน็อกเอาต์ของตัวเองเป็นครั้งแรกใน ONE ได้ตั้งแต่ไฟต์ที่สอง ด้วยการยิงหมัดฮุกขวาใส่ “แอนโทนี เอ็นโจกัวนี” ในศึก ONE: CALL TO GREATNESS เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562

#3 คว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวตครั้งแรก

“รีเกียน” ต้องโคจรมาพบกับ “นิกี โฮลสเกน” เพื่อนร่วมชาติชาวดัตช์ ที่ทำผลงานเก็บชัยชนะไล่ ๆ กันมา ในศึกชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต (155 – 170 ป.) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในศึก ONE: ENTER THE DRAGON ในเดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งไฟต์นี้ “The immortal” จัดอาวุธไม้ตายเข่าลอยกระแทกศีรษะ “นิกี” เข้าเต็ม ๆ จนได้นับ 8 ในยกสี่ เป็นแต้มสำคัญที่ทำให้เอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ นั่งแท่นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต คนแรกของ ONE

#4 ย้ำแค้น “นิกี” ในไฟต์รีแมตช์

“นิกี” ได้โอกาสรีแมตช์กับ “รีเกียน” อีกครั้งในศึก ONE: DAWN OF VALOR ในเดือนตุลาคม 2562 และปรากฏว่าครั้งนี้ “The Immortal” เป็นฝ่ายที่สามารถคุมเกมได้เหนือกว่าตั้งแต่ยกแรก ยันยกสุดท้าย ทำให้ป้องกันแชมป์ได้แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย ด้วยคะแนนเอกฉันท์

#5 เอาชนะ “มุสตาฟา” ไปได้แบบไม่ยากเย็น

“รีเกียน” ลงป้องกันตำแหน่งครั้งที่สอง พบกับ “มุสตาฟา ไฮดา” ในศึก ONE: FISTS OF FURY III เดือนมีนาคม 2564 ซึ่งเกมการชกตลอดห้ายก เป็น “รีเกียน” ที่ระดมต่อยเตะครั้งแล้วครั้งเล่าใส่ “มุสตาฟา” ที่ทำได้แค่เป็นฝ่ายตั้้งรับ จนสามารถประสบความสำเร็จในการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้เป็นสมัยที่สาม

#6 เจอบททดสอบยากจาก “อิสลาม”

“รีเกียน” ลงป้องกันแชมป์อีกครั้ง ในเดือนธันวาคม 2564 พบกับ “อิสลาม มูร์ตาซาเอฟ” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: WINTER WARRIORS โดยไฟต์นี้ “รีเกียน” ต้องเจอกับงานหนักจากผู้ท้าชิงตั้งแต่ยกแรก ก่อนจะค่อย ๆ ตีตื้นเก็บแต้มมาได้ในช่วงท้ายเฉือนชนะไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์

#7 ผ่านด่านที่ยาก และสาหัสที่สุดไปได้

“รีเกียน” ลงป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต ครั้งล่าสุด พบกับ “อาเรียน ซาดิโควิจ” ในศึก ONE 156 เดือนเมษายน 2565 โดยครั้งนี้ “รีเกียน” เกือบเอาตัวไม่รอด หลังเป็นฝ่ายร่วงลงไปกองให้นับ 8 ในช่วงยกที่สอง ก่อนที่สุดท้าย “รีเกียน” จะเรียกความมุ่งมั่น กลับมาเอาชนะได้ในยกที่เหลือ จนสามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้เป็นครั้งที่ 4

#8 สลับมาชกมวยไทยและคว้าแชมป์ได้ทันที

หลังเก็บคู่ต่อกรในแรงกิงคิกบ็อกซิ่ง เรียบยกแผง “รีเกียน” ตัดสินใจย้ายมาชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวต ที่ว่างอยู่ กับ “สินสมุทร กลิ่นมี” ในศึก ONE Fight Night 3 เมื่อ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งรูปเกมตลอดสี่ยกแรก เป็นไปอย่างสูสี กระทั่งในยกที่ห้า “สินสมุทร” ดูอ่อนแรงลงไป จนทำให้ “รีเกียน” ได้โอกาสบุกหนัก จนเหนือกว่าอย่างชัดเจน และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เก็บชัยชนะไปได้แบบไม่เป็นเอกฉันท์ คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย มาครองเป็นเส้นที่สองทันที

#9 ย้ำแค้น “สินสมุทร” ป้องเข็มขัดมวยไทย

“รีเกียน” ต้องพบกับ “สินสมุทร” อีกครั้งในไฟต์รีแมตช์ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวต ในศึก ONE ลุมพินี 9 และครั้งนี้แชมป์โลกจากซูรินาม ก็ปิดเกมได้อย่างไร้ข้อกังขา ด้วยการกดหมัดฮุกซ้ายเข้าที่บริเวณตับของ “สินสมุทร” ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวตไปได้อย่างยิ่งใหญ่

แฟน ๆ สามารถจองบัตรเข้าชมในสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh