logo ถกไม่เถียง

เกมเปลี่ยน ! ลือสะพัด “ลุงป้อม” สั่งยุบพลังประชารัฐ ส.ส.ยกขบวนย้ายซบเพื่อไทย

ถกไม่เถียง : กลายเป็นประเด็นร้อนการเมืองขึ้นมา หลังมีข่าวลือสะพัดว่า "ลุงป้อม" จะสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่ง สส. 41 คน ย้ายไปซบพรรคเพื่อไทย ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigita,เลือกตั้ง66,ผลการเลือกตั้ง,งูเห่า พรรคก้าวไกล,พรรคเพื่อไทย,พรรครวมไทยสร้างชาติ,พรรคภูมิใจไทย,พรรคพลังประชารัฐ,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคชาติไทยพัฒนา,กกต,สว,จัดตั้งรัฐบาล,แลนสไลด์,บ้านใหญ่,คนรุ่นใหม่,สส,ปาร์ตี้ลิสต์,แบ่งเขต,อนาคตใหม่,ทักษิณ,ชูวิทย์,สันธนะ,เรืองไกร

11,279 ครั้ง
|
22 พ.ค. 2566
กลายเป็นประเด็นร้อนการเมืองขึ้นมา หลังมีข่าวลือสะพัดว่า "ลุงป้อม" จะสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่ง สส. 41 คน ย้ายไปซบพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้พรรคเพื่อไทยมี สส. ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในทันที วันนี้ถกไม่เถียงจะวิเคราะห์ประเด็นนี้ว่ามันมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน 
 
ถกไม่เถียง : เกมเปลี่ยน ! ลือสะพัด “ลุงป้อม” สั่
 
             วันที่ 22 พ.ค. 66 รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า สำหรับสูตรดังกล่าวนั้น ตนคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ ทว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น ตนคิดว่า ควรเคารพมติของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงในเวลานั้น เพราะเขาเลือกมาแล้วว่ากลุ่มไหนเขาไม่เอา กลุ่มไหนเขาเอา ขณะเดียวกัน หากมันจะเกิดขึ้นพรรคเพื่อไทย ต้องเล่นด้วย แต่พรรคเพื่อไทย ก็ได้พูดไว้แล้วว่าจะไม่เล่นเกมซ้อนเกม เขาต้องทำแบบที่พูดไว้กับประชาชน ทั้งนี้ ความคิดนี้มันเป็นความคิดของคนในพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการเป็นรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวตนคิดว่าเขาควรพัก เพราะประชาชนเขาปฏิเสธพวกเขาแล้ว เปิดทางให้พรรคอื่นเขาแสดงฝีมือบ้าง ทั้งนี้ ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทย ไม่กล้าเล่นด้วยกับพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี หรือถ้าจะเล่นด้วย ก็คงไม่แย่งขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล
 
ถกไม่เถียง : เกมเปลี่ยน ! ลือสะพัด “ลุงป้อม” สั่
 
             สำหรับการทำ MOU ของพรรคก้าวไกล เป็นการทำให้การเมืองไทยก้าวไปอีกระดับหนึ่ง เพราะ เราได้แน่ใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคก้าวไกล จะมีพรรคร่วมกี่พรรค และพรรคไหนบ้าง ข้อตกลงเป็นเช่นไร สิ่งที่ต้องดูต่อไปก็คือสภาจะรับหรือไม่ ซึ่งมันยังดีกว่าการที่เขายังตกลงกันไม่ได้ ขณะที่ประธานสภานั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจากพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุด แต่ส่วนตัวตนคิดว่า ยังไงพรรคก้าวไกลก็ต้องดันคนในพรรคของตัวเองขึ้นเป็นประธานสภา เพราะเขาคงไม่ไว้ใจคนจากพรรคอื่น 
 
             อย่างไรก็ตาม ตนยังวิงวอนเรียกร้องให้พวก สส. สว. ช่วยกันทำให้บ้านเมืองก้าวไปสู่ความต้องการของประชาชน เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น 
 
ถกไม่เถียง : เกมเปลี่ยน ! ลือสะพัด “ลุงป้อม” สั่
 
             ฟาก ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นการปล่อยข่าวของพรรคพลังประชารัฐ มากกว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐควรรู้ตัวเองได้แล้ว เพราะได้ สส.บัญชีรายชื่อมาแค่ 2 เสียง ต้องประเมินแล้วว่า ตัวพล.อ.ประวิตร ประชาชนตอบรับมากน้อยแค่ไหน ควรกลับไปทบทวนยุทธศาสตร์การหาเสียง อีกทั้งการเล่นสูตรดังกล่าวเป็นการเสี่ยง เป็นเกมสกปรก เสียเกียรติชายชาติทหาร และยิ่งไปกว่านั้นพรรคก้าวไกลจะยิ่งเป็นพระเอกขึ้นไปอีก ถ้าพรรคเพื่อไทยหลงไปเล่นด้วย จะได้ไม่คุ้มเสีย 
 
             เว้นเสียแต่ว่าพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ไม่สามารถหาเสียงได้ 376 เสียง หรือเอาชนะสว. ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ไปถึงจุดนั้นได้ง่าย ๆ เพราะถ้าพรรคก้าวไกลเล่นเกมยอมถอย ไม่แตะกับมาตรา 112 ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่สว. จะไม่โหวตให้ ส่วนสว.บางท่านที่แสดงจุดยืนว่า จะรอดูคุณพิธา ในเรื่องของการถือครองหุ้นสื่อก่อน ส่วนตัวตนมองว่าเรื่องนี้มันคนละส่วนกัน ควรรับเขาเป็นนายกฯ ไปก่อน แล้วอนาคตเขาจะโดนคดีเรื่องหุ้นสื่อหรือไม่อย่างไร สว.ก็สามารถกลับมาโหวตให้นายกฯคนใหม่ได้อย่างไม่มีข้อครหา ตนคิดว่าสังคมยอมรับในกรณีแบบนี้ได้ 
 
ถกไม่เถียง : เกมเปลี่ยน ! ลือสะพัด “ลุงป้อม” สั่
 
             นอกจากนี้ หลังจากคุณพิธาได้มีการแถลงการทำ MOU พร้อมกับพรรคร่วมทั้งหมดรวม 8 พรรค ต้องรอดูว่าสว. จะมีท่าทีโอนอ่อนลงหรือไม่ ขณะเดียวกัน แรงกดดันต่าง ๆ จะไปตกอยู่ที่ กกต. ให้เขารีบรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่ง 60 วันนั้นมันนานเกินไป มันจะส่งผลต่อตลาดหุ้น สำหรับประเด็นการถือครองหุ้นสื่อของคุณพิธานั้น ตนมองว่าน่ากังวลน้อยกว่ากาขอเสียงจากสว.เสียอีก เพราะเขาสามารถต่อสู้ได้ ทั้งนี้หากเทียบกับเคสของคุณธนาธร มันก็ไม่น่าจะรอด แต่ถ้าเอากรณีของ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ มาเทียบ โดยมีการตัดสินว่าจำนวนการถือครองหุ้นไม่ถือว่าเป็นการครอบงำ ก็สามารถสู้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องของการตีความ 
 
             ทั้งนี้ หากพรรคก้าวไกลไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล จะขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะยังเป็นพันธมิตรกับพรรคก้าวไกลต่อไหม ถ้าประกาศว่ายังเป็น จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเขาดูดีมาก แต่ถ้าสมมติมีการไปดึงพรรคใดพรรคหนึ่งที่เป็นขั้วเดิมของรัฐบาลชุดที่แล้ว พรรคก้าวไกลเขาก็ออกตัวเลยว่าเขาจะเป็นฝ่ายค้าน และในสนามการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย จะหันไปเลือกพรรคก้าวไกลอย่างปฏิเสธไม่ได้ ส่วนตัวตนคิดว่า หากเพื่อไทยได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาล แล้วยึดพรรคพันธมิตรเดิม อาจจะเป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะมีเสียงสนับสนุนจากสว. ที่เคยคุ้นเคยกันมาได้มากกว่าพรรคก้าวไกล 
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/n58Mi1jAdM4