พิธา พร้อม 7 พรรคร่วม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยจะมีการทำเอ็มโอยู วันที่ 22 พ.ค. นี้
“พิธา” แถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยันพร้อมเป็นนายกฯ
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมตัวแทนจากอีก 7 พรรค ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ และนายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้แถลงข่าวร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งรวมทั้ง 8 พรรค จะมีทั้งหมด 313 เสียง
โดยนายพิธา ยืนยันว่า รัฐบาลชุดใหม่ จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ ซึ่งทุกพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาล มีมติร่วมกันดังนี้
1.ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุน นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมาก
2.ทุกพรรคจะทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล และจะแถลงต่อสาธารณะชน ในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึง (ตรงกับวันทำรัฐประหารปี 2557 ของ คสช.)
3.ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดิน ต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกังวล เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้กำลังจัดทำเรื่องคณะกรรมการ ฉะนั้นขอให้รอรายละเอียดในวันที่ 22 พ.ค. เลยทีเดียว และมั่นใจว่า คะแนนโหวตในสภาจะผ่านแน่นอน และคิดว่าคะแนน 313 เสียง ถือว่าเป็นปกติ ส่วนกรณีหาเสียงให้ครบ 376 เสียง ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เมื่อถามเรื่องการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น นายพิธา บอกว่า จะเอาวาระประชาชน และนโยบายเป็นตัวตั้ง ก่อนจะเรียงลำดับความสำคัญ แล้วค่อยมาดูว่า จะมีกระทรวงไหนทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นเอกภาพบ้าง ส่วนใครจะคุมกระทรวงไหนเป็นเรื่องปลายเหตุ
ยัน “เพื่อไทย” สนับสนุน “พิธา”
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และร่วมกันผลักดัน ให้มีคะแนนในที่ประชุมร่วมรัฐสภา 376 เสียงให้ได้
“วิษณุ” เชื่อ 313 เสียง “ก้าวไกล” มั่นคงแล้ว
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่า การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล มีเสียงรวมมากถึง 313 เสียง เกินกว่า 250 เสียง ถือว่ามั่นคงแล้ว ส่วนการโหวตที่ต้องอาศัยเสียง สว. อีกกว่า 60 เสียงนั้น ควรต้องค่อย ๆ พูดกัน เพราะยังมีเวลาอีกเยอะ ในขั้นตอนประกาศรายชื่อ สส. และเลือกนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกฎหมาย หากโหวตชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ผ่าน จะสามารถนำชื่อเดิมกลับมาโหวตซ้ำได้อีกได้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า โหวตชื่อเดิมได้
“ศรีสุววรณ” เล็งร้อง กกต. ปมยุบพรรค
แต่จากกรณีแกนนำพรรคก้าวไกล ได้นัดแกนนำพรรคอื่น ๆ ร่วมหารือที่ร้านอาหารเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) โดยมีภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงของพรรค ปรากฏตัวอยู่ด้วยนั้น
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เรื่องนี้ต้องถึง กกต. สงสัย เอก-ป๊อก-ช่อ ไปร่วมวงสนทนาการตั้งรัฐบาลในนามพรรคอะไร เมื่อตนไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองใด และหมดสถานะผู้ช่วยหาเสียงแล้ว
อาจเข้าข่ายไปครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง หรือพรรคการเมืองปล่อยให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาครอบงำ ชี้นำได้ อันอาจเป็นการฝ่าฝืน ม.28 ม.29 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 เป็นเหตุให้ กกต. สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรค ที่ร่วมหารือกันตั้งรัฐบาลได้ ตาม ม.92 (3) ของกฎหมายข้างต้น
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35