ร่วมพูดคุยกับ คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล และ สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา ในประเด็นเรื่อง กฎเกณฑ์ที่จะทำให้ สว.โหวตให้กับคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลต่อเสียงของ สว.
วันที่ 18 พ.ค. 66 คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล 313 เสียง ถือว่ามีเอกภาพมากพอแล้ว ไม่ควรไปกังวลกับตัวเลข 376 เสียง หรือการโหวตของ สว. เพราะเชื่อว่า สว.มีเกณฑ์การพิจารณาที่ดี ถ้าหากพูดคุยและรับรู้นโยบายหลักของรัฐบาล
คุณดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีเกณฑ์ในการพิจารณาของตนเองในการโหวตนายกฯ ได้แก่ รัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ ได้รับเสียงข้างมากจาก สส. นายกรัฐมนตรีจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถขับเคลื่อนนโยบาย และมีความชัดเจนของนโยบายต่าง ๆ เช่น ปฏิรูปกองทัพ แก้ไขมาตรา 112 ต้องมีแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งนโยบายบางอย่างใน 300 นโยบายของก้าวไกล ตนก็เห็นด้วยเพราะเป็นการพัฒนาประเทศไปในทางที่ดีขึ้น
แต่นโยบายแก้ไขมาตรา 112 ทางพรรคร่วมรัฐบาลและก้าวไกลจะต้องชี้แจงให้ชัดเจน ว่าจะมีการแก้ไขในส่วนใดบ้าง เพื่อให้กลุ่ม สว.เข้าใจตรงกันว่าเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง คุณวิโรจน์ เสริมต่อว่าการแก้ไขมาตรา 112 จะต้องทำอย่างระมัดระวังรอบคอบ ต้องมีการเปิดรับความคิดเห็นของประชาชน จากนั้นจะต้องเปิดเผยอย่างโปร่งใสแก่ประชาชนให้รับรู้และเข้าใจร่วมกันก่อนที่จะยื่นเข้าสภา
การทำ MOU กับพรรคร่วมรัฐบาล ก้าวไกลเน้นนโยบาย 100 วันแรก ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาปากท้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรถึงจะดำเนินการได้ มั่นใจว่าถ้าหาก สว.ได้ฟังนโยบาย 100 วันแรกของก้าวไกล ก็จะตัดสินใจโหวตให้คุณพิธาไม่ยาก สว.ดิเรกฤทธิ์ เสริมว่า ก้าวไกลควรประกาศอย่างเป็นทางการว่าการแก้ไขมาตรา 112 มีวิธีการอย่างไรต่อสาธารณะ จึงจะทำให้ สว.ส่วนใหญ่ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
สว.ดิเรกฤทธิ์ ยืนยันว่าก้าวไกลควรพูดคุยอธิบายกับ สว.ทุกคน เพราะแต่ละคนจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน จึงต้องทำความเข้าใจกันด้วยเหตุผล ส่วนประเด็นกลุ่มไลน์ของ สว.ตนยืนยันว่าเป็นเพียงพื้นที่ประสานงานและใช้แสดงความเห็นเท่านั้น ไม่สามารถมาบังคับให้โหวตตามกันได้ ซึ่งบางการโหวตก็อาจมีความเห็นไม่ตรงกันได้
คุณวิโรจน์ กล่าวต่อว่า หลังจากการตกลง MOU กันแล้ว ก็จะทำให้ประชาชนได้เห็น ครม.ดรีมทีม ของพรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล เมื่อประชาชนและ สว.ได้เห็น ครม.ดรีมทีมแล้ว ก็จะเข้าใจภาพรวมของการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ได้มากขึ้น ส่วนการแบ่งกระทรวง พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจเลือก แต่จะเป็นการนำนโยบายมาพิจารณากันก่อน แล้วนำนโยบายที่ดีมาขับเคลื่อนผ่านกระทรวงต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายนั้น ๆ และยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่คิดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ชมผ่าน YouTube ได้ที่
+ อ่านเพิ่มเติม