แม่ช็อก ! ลูกชาย-สะใภ้ เป็นศพอยู่ในป่า ตำรวจตั้งปมหึงหวง จ.ชุมพร | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

462 ครั้ง

16 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เสียงร้องไห้ระงมป่า เมื่อแม่ไปพบลูกชายกับลูกสะใภ้กลายเป็นศพอยู่ในป่าข้างสวนทุเรียน หลักออกไปตัดไม้ไผ่มาค้ำต้นทุเรียน แม่เล่าทั้งน้ำตาเห็นอยู่กันมา 6 ปี ไม่เคยทะเลาะกัน ติดใจถึงชนวนเหตุ ที่ทำให้เกิดเหตุสลด

เมื่อเย็นวานนี้ (15 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งพบศพชาย-หญิงเสียชีวิตอยู่บริเวณคลองยายม่อน อ.พะโต๊ะ จังหวัดชุมพร จึงรุจไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ไม่ติดป้ายทะเบียน จอดอยู่โดยมีศพชาย อายุ 27 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ เสียชีวิตอยู่กับกิ่งไม้ ส่วนในลำธารมีศพหญิงสาว อายุ 29 ปี เป็นชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอนหงายอยู่บนโขดหิน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าผากและศีรษะ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง โดยครอบครัวร้องไห้เสียใจกันระงม

สอบสวนทราบนางชัญญศร แยกดวง อายุ 50 ปี แม่ฝ่ายชายที่เสียชีวิต ให้การว่า ลูกชายเพิ่งกลับมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมลูกสะใภ้ หลังพากันไปเลือกตั้งมา จากนั้นก็พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปตัดไม้ไผ่ไปโยงต้นทุเรียนในสวน จากนั้นช่วงเที่ยงคืนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ลูกขี่เข้ามาที่บ้าน แล้วก็ออกไปอีก จนกระทั่งมีคนไปบอกว่าลูกชายกับลูกสะใภ้เสียชีวิต ทั้งคู่อยู่กินกันมา 6 ปี ไม่เคยเห็นมีปากเสียงทะเลาะกันเลย ทั้งคู่รักกันดี ตนเองไม่ติดใจการเสียชีวิต แต่อยากรู้ถึงปมเหตุที่ทำให้ลูกชายลงมือทำร้ายลูกสะใภ้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนใจเย็นทั้งคู่ ก่อนจะเสียชีวิตก็ยังกินข้าวกันอยู่ดี ๆ เลย

ขณะที่นายสุริยา เพชรเศรษฐ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ระบุ มีชาวบ้านที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุแจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องลั่น คล้ายเสียงทะเลาะวิวาทกัน และช่วงเช้าวันนี้มาพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ ลูกบ้านจึงประสานให้ตนเองเข้ามาดูว่าเป็นรถใคร เมื่อมาถึงออกเดินตรวจสอบดูก็พบศพทั้ง 2 คน

ขณะที่ญาติ ๆ กำลังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ได้มีญาติฝ่ายหญิงที่เสียชีวิตคนหนึ่ง มีอาการคล้ายกับถูกอะไรบ้างเข้าสิงร่าง ญาติเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่เสียชีวิตมาเข้าร่าง เพราะพูดออกมาว่า “หนูหนาว ๆ” แล้วก็หันมากอดพ่อกับแม่ผู้เสียชีวิตแล้วร้องไห้

ด้าน พ.ต.อ. มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ เปิดเผยว่า จากการชันสูตรพลิกศพ พบว่าฝ่ายหญิงได้ถูกทำร้ายด้วยของแข็งไม่มีคม เข้าบริเวณศีรษะ ส่วนฝ่ายชายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างฝ่ายหญิงกับฝ่ายชาย และฝ่ายชายน่าจะเกิดความหึงหวง จึงได้ลงไม้ลงมือกับฝ่ายหญิง เนื่องจากมีการดึงผมจนหนังศีรษะเปิด และมีศีรษะมีร่องรอยการถูกทำร้าย จนฝ่ายหญิงแน่นิ่งไป

จากนั้น ฝ่ายชายน่าจะขับรถกลับมาบ้าน โดยทิ้งศพฝ่ายหญิงไว้ที่เกิดเหตุ แต่เกิดการสำนึกผิด จึงได้เอาเชือกฟางที่บ้านแล้วขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่จุดก่อเหตุ แล้วใช้เชือกผูกคอตายฝ่ายหญิงไป แต่อย่างไรก็ตามต้องรอการรวบรวมหลักฐานอีกครั้งเพื่อจะได้คลี่คลายคดีให้กับทางญาติได้พึ่งพอใจที่สุดต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35