นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภาชี้ พรรคการเมืองต้องชัดเจน จะจับมือกับพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลหรือไม่ เชื่อนโยบายแก้ ม.112 เป็นตัวแปรส่ง “พิธา” ไปไม่ถึงเก้าอี้นายก
วันนี้ (16 พ.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีเสียงให้ได้ 376 เสียง แต่ตอนนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนถึงขนาดนี้ จึงต้องรวมเสียงจากพรรคการเมืองอื่นด้วย และพรรคการเมืองเหล่านั้นต้องเห็นพ้องต้องกัน
โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะเป็นเพราะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และรวมเสียงได้แล้ว 309 เสียง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ควรมีความชัดเจนจากพรรคการเมืองอื่นด้วย ว่าจะจับมือจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้นจำนวนเสียงที่ประกาศออกมา ยังไม่มีพรรคอื่นมาประกาศความชัดเจนด้วย
อย่างไรก็ตาม 309 เสียง คงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องรวมเสียงกับ สว. ด้วย แต่เชื่อว่า สว. จะพิจารณาจากหลักเกณฑ์อื่นด้วยทั้งแนวคิดนโยบายของแต่ละพรรค หากตั้งรัฐบาลแล้วจะทำอะไรต่อ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าแนวนโยบายของพรรคก้าวไกล เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่อาจจะสร้างปัญหา และกระทบความมั่นคงของประเทศ และส่วนตัว เป็นคนหนึ่งที่จะต้องขอความชัดเจนจากพรรคก้าวไกลว่าจะแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 เพราะเป็นประเด็นที่มีคนไม่เห็นด้วยเยอะ ขณะเดียวกันก็มองว่าคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ไม่ได้เลือกเพราะจากแก้ไขมาตรา 112 เพียงอย่างเดียวยังมีนโยบายอื่น ๆ มาประกอบการตัดสินใจด้วย
ดังนั้น สว. ต้องระมัดระวังข้อเสนอแนะนโยบายที่แต่ละพรรคเสนอ มีความชัดเจนไม่สามารถเลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะยังมีนโยบายจะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจะทำให้ความเห็นของประชาชนแตกแยกเกิดความขัดแย้ง นโยบายอื่นมีมากมาย ที่เสนอมาเพื่อจะทำประโยชน์ให้กับประชาชน เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 อยู่หลายพรรค ประเด็นนี้จึงจะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้พรรคการเมืองตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลหรือไม่
นายเสรี ขอให้สังคมหรือผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ไม่ต้องกังวลว่า สว. จะขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล เพราะ สว. จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีที่สุด และไม่อคติกับพรรคใดทั้งสิ้น อยากให้ตั้งรัฐบาลจากพรรคที่ประชาชนศรัทธา เชื่อถือ ไม่เป็นปัญหากับบ้านเมือง
ขณะเดียวกันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่จะให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากทำได้ เพราะนโยบายไม่ตรงกันเลยจับมือตั้งรัฐบาลไม่ได้ ดังนั้นขอให้ พรรคก้าวไกล และพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันตกลงกันให้ได้ก่อน
นายเสรี ยอมรับว่า ขณะนี้ สว. พูดถึงผลการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้คุยกันอย่างเป็นทางการ หลักสำคัญคือต้องวางหลักเกณฑ์ การที่จะเลือกให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง แต่หากเป็นแล้วมีคนมาต่อต้านชุมนุม ก็จะเป็นปัญหาเสียเวลา ดังนั้นคนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ต้องมายึดหลักเอาใจแต่ผู้สนับสนุน ที่พยายามจะเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง บางครั้งก็ไม่รู้ว่าที่ออกมาเรียกร้องมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
จึงเกิดเหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย การสร้างบ้านเมืองมีหลักหลายมิติ มีหลากหลายสังคม หลากหลายวัฒนธรรม แต่ปัจจุบันการแสดงออกขาดความเคารพนับถือ ผู้หลักผู้ใหญ่และสถาบันสูงสุดของประเทศ เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ ทำให้คนรุ่นใหม่คิดแตกต่างจากวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยในประเทศ ถึงต้องมีการปรับแก้และทำความเข้าใจ แต่ต้องใช้เวลาเพราะปล่อยให้เลยเถิดมานาน
คนมาเป็นผู้นำต้องเป็นผู้นำที่ดี อย่าเล่นการเมืองเพียงอย่างเดียว อย่าเอาแต่ชนะอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีอำนาจแล้วอยากทำอะไรก็ทำ การอยู่ร่วมกันในสังคมต้องอะลุ่มอล่วยกันหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกันได้ หากมีอำนาจแล้วทำอะไรก็ได้ จะกลายเป็นอำนาจที่กลับมาทำร้ายตัวเอง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35