หลังความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ในรอบกว่า 2 ทศวรรษ เกิดการตั้งคำถามมากมายถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกล รวมถึงความเป็นไปได้ถ้าหากว่าก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เพื่อไทยจะทำอย่างไร ทั้งสองพรรคจะเป็นมิตรกันอยู่หรือไม่ ?
วันที่ 16 พ.ค. 66 คุณจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า คิดว่าคุณทักษิณคาดไม่ถึงว่าจะเจอปรากฏการณ์ของพรรคก้าวไกล ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เพื่อไทยต้องทบทวน เพื่อรักษาฐานคะแนนเอาไว้ และไม่ควรประมาทความรู้สึกของประชาชน ที่สนใจจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนของก้าวไกล ส่วนเพื่อไทยไม่ค่อยมีความชัดเจน
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คิดว่ามีประเด็นเพิ่มเติมจากเรื่องนี้ จากความรู้สึกของคนภายใต้รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ กว่า 9 ปี คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็ไม่เอาลุงอีก ประกอบกับความไม่ชัดเจนของเพื่อไทย และการประกาศกลับบ้านของคุณทักษิณ มีผลให้คนที่อยากเลือกฝั่งประชาธิปไตยเทคะแนนให้ก้าวไกล
จุดสังเกตคือฐานเสียงแต่ละเขตของเพื่อไทย แพ้คะแนนก้าวไกลไปหลายเขต ส่วนบัญชีรายชื่อก็ได้คะแนนห่างกันกว่า 3 ล้านคะแนน จึงเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น เพราะคนที่เลือกเพื่อไทยแบบแบ่งเขต มาเลือกก้าวไกลแบบบัญชีรายชื่อ คุณจตุพร เชื่อว่าการประกาศกลับบ้านของคุณทักษิณครั้งล่าสุด อาจทำให้มีผู้รำคาญ และเพื่อไทยเองก็ดูไม่ชัดเจน ส่วนก้าวไกลไม่ว่าจะเอาใครมาพูดก็มีความชัดเจนเหมือนกันทุกคน และประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง จึงอยากฝากความหวังไว้กับ สส.หน้าใหม่
สูตรจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล เพื่อไทย 310 เสียง อาจารย์ปริญญา มองว่าตอนนี้มีเพียงสูตรนี้สูตรเดียวที่เป็นไปได้ ตามหลักการพรรคที่ได้ สส.มากที่สุดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากเป็นตามปกติของระบบรัฐสภาสามารถเป็นรัฐบาลได้เลย แต่ในกรณีนี้ไม่ปกติเพราะมี สว.ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหารมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีได้ จึงต้องการอีก 66 เสียง แต่ถ้าหากเสียงไม่ถึง ก้าวไกลก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เพื่อไทยพรรคอันดับที่ 2 จะได้จัดตั้งรัฐบาลแทน
คุณจตุพร คาดว่า สว. จะงดออกเสียง การรวบรวมเสียงของก้าวไกลให้ถึง 376 เสียง เป็นไปได้ค่อนข้างยาก อยากจะเตือนคุณพิธาว่าควรจะนัดรวมทั้ง 6 พรรค แถลงข่าวให้สัญญากับประชาชน เพื่อป้องกันเพื่อไทยเล่นตามเกมตามที่อาจารย์ปริญญากล่าวไว้ หรือข้ามขั้วไปจัดตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ หรือบางข้อเรียกร้องที่อยากให้ฝ่ายค้านมาโหวตให้คุณพิธาเป็นนายกฯ อาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ จะทำให้ประเทศไปต่อไม่ได้
อาจารย์ปริญญา ให้ความเห็นว่าเพื่อไทยไม่กล้าจะข้ามขั้วไปร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ เพราะจะทำให้ฐานเสียงจากประชาชนหายไปจำนวนมาก และ สว.ก็คาดไม่ถึงว่าก้าวไกลจะมาเป็นแกนนำรัฐบาล จึงเกิดความลังเลที่จะเลือกมากขึ้น แต่ยังมีโอกาสที่ก้าวไกลจะได้เสียงส่วนหนึ่งของ สว.จนจัดตั้งรัฐบาลได้
ประเด็นเรื่องถือหุ้นสื่อของคุณพิธา คุณจตุพกล่าวว่า ที่จริงแล้วมีหลายพรรคที่ถูกร้องเรียนในกรณีเดียวกันนี้ ทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับการตัดสินของ กกต.กับศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้คนแพ้กลับมาชนะ คนชนะกลายเป็นแพ้ เพราะ กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่อย่างไม่ปกติ อาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ ส่วนอาจารย์ปริญญา มองว่าประเด็นการถือหุ้นสื่อของคุณพิธา อาจตะลุกลามไปถึงการยุบพรรคได้ แต่ถ้าหากพิจารณาจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้ผู้มีอำนาจกลับไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง
คุณจตุพร เชื่อว่าเพื่อไทยไม่ใช่มิตรแท้ของก้าวไกล เพราะทั้งสองพรรคนี้เป็นคู่แข่งขันกัน มีฐานเสียงจากคนกลุ่มเดียวกัน แต่กระแสประชาธิปไตยบีบให้ต้องมาร่วมมือกัน จากการหาเสียงยังมีการจิกกัดกันอยู่ตลอด จนกว่าจะมีใครชนะได้อย่างเด็ดขาด ส่วนอาจารย์ปริญญา เสริมว่าหากมองในเชิงบวก การแข่งขันระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล เป็นเรื่องที่แปลกในทางการเมือง เพราะเป็นการแข่งขันของขั้วเดียวกัน ดังนั้นจึงสามารถตั้งความหวังที่ดีได้ในอนาคต
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35