ปริศนา ? อิสรภาพทางการเงิน สภาพคล่องที่ทุกคนโหยหา | เงินทองของจริง

9,168 ครั้ง

18 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

อิสระในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่หลายคนโหยหา และเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็มีอยู่หนึ่งคำ "อิสรภาพทางการเงิน" คำคำนี้มีความหมายว่าอย่างไร ?

ต้องบอกว่าเป็นสภาวะที่เรารู้สึกสบายคลายกังวลจากเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วถือว่าเป็นคำที่ค่อนข้างเป็นนามธรรมเหมือนกัน เช่น บางคนอยากมีเงินร้อยล้านถึงจะทำให้รู้สึกสบายคลายกังวลได้ แต่อีกคนกลับบอกว่าอยากมีเพียงเงินเก็บแค่ก้อนเดียวและไม่มีหนี้ ก็ทำให้มีความสบายใจได้เหมือนกัน ดังนั้นแล้ว "อิสรภาพทางการเงิน" ก็อาจมีได้หลากหลายรูปแบบ แต่โดยรวมแล้วก็คือ การที่มนุษย์คนหนึ่งรู้สึกเบาสบายคลายกังวลทางด้านการเงินลงไปได้นั่นเอง

คำถามต่อมาคือ ต้องมีเงินเท่าไหร่ ถึงจะทำให้เรารู้สึกมีอิสรภาพได้ ? และอย่างที่กล่าวไปคือ "แต่ละคนมีโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน" แต่ก็มีการจัดลำดับขั้น 7 อันดับในการแบ่งมาให้ ดังนี้

1. ชัดเจน หรือ "Clarity" คือ เรารู้ตัวตนทางการเงินของเรา รู้สถานะ รายได้ ทรัพย์สิน หนี้สิน และรู้เป้าหมายทางการเงิน

2. พึ่งพาตัวเองได้ หรือ "Self-Sufficiency" คือ รายได้ เพียงพอต่อ รายจ่าย ไม่ติดลบ ไม่ต้องหยิบยืม

3. พอมีเหลือ หรือ "Breathing Room" คือ รายได้ มากกว่า รายจ่าย มีเงินเหลือเก็บ สามารถนำเงินไปต่อยอดได้

4. มั่นคง หรือ "Stability" คือ มีความมั่นคงในระยะสั้น มีมากกว่าเงินเก็บ มีเงินสำรองเพียงพอสำหรับฉุกเฉิน 6-12 เดือน

5. ยืดหยุ่น หรือ "Flexibility" คือ มีเงินสำรองเพียงพอสำหรับฉุกเฉิน 1-5 ปี ซึ่งหากเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น โควิด-19 ก็สามารถอยู่อย่างสบาย ๆ ได้โดยไม่ติดขัดอะไร

6. มีอิสระทางการเงิน หรือ "Financial Independence" คือ มีค่าใช้จ่ายอยู่ในขอบเขตผลตอบแทนจาก "การลงทุน" เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์ ฯลฯ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งรายได้จาก "การทำงาน" หรือก็คือการมี Passive Income ที่มากพอ

7. มั่งคั่งเกินพอ หรือ "Abundant Wealth" คือ มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายทุกอย่างในชีวิตได้โดยไม่ต้องทำงาน

เมื่อพอมองเห็นภาพ เพื่อเป็นแนวทางจากลำดับขั้นทั้ง 7 แล้ว หลายคนอาจจะกำหนดเป้าหมายของตัวเองว่าต้องการมีอิสรภาพทางการเงินอยู่ในลำดับไหน ต่อมาคือ "การเริ่มต้น" เราจะเริ่มต้นจัดการกับเป้าหมายนี้อย่างไรดี ?

1. "หารายได้ให้มากพอที่จะมีออม" เช่น การหารายได้มากกว่า 1 ช่องทาง ทั้งจากการทำงานเสริมก็ดี หรือการลงทุนก็ดี ถือเป็นช่องทางที่ 2 ที่ 3 จากงานหลักทั้งหมด และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในช่วง 20 ปีแรกของการสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งต้องเรียนรู้ที่จะบริหารเงินให้ดีเพียงพอต่อความจำเป็น และสนองความต้องการของตัวเองได้ ในขณะเดียวกันก็มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ควบคู่กันไปตลอด

2. "จัดการค่าใช้จ่าย" เป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัววัด เพราะเมื่อเรามีรายรับ ทำอย่างไรให้ได้มากขึ้น และย่อมมีรายจ่าย ทำอย่างไรให้ลงตัว และที่สำคัญต้องมีเงินเก็บ ทำอย่างไรให้ผลิดอกออกผลงอกเงย

3. "การออมเงินเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายในอนาคต" จัดสรรให้เหมาะสม เช่น เงินสำรองในยามฉุกเฉิน และเงินลงทุนเพื่อต่อยอด เป็นต้น

4. "การลงทุนต่อยอดโดยเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่เหมาะสมกับระยะเวลา" ต้องเตือนก่อนว่าการลงทุนอาจไม่ได้ง่าย เงินไม่สามารถโตขึ้นได้เพียงนำไปวางไว้มั่ว ๆ ดังนั้น ต้องเรียนรู้เพื่อให้รอบรู้ที่จะลงทุน จึงจะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี

เป็นธรรมชาติของคนเรา เมื่อมีรายได้ ย่อมอยากควักกระเป๋าจ่าย ซึ่งอาจจะต้องจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้ได้ในบางครั้ง เพราะหากอยากมีอนาคตทางการเงินที่สดใส อยากรู้สึกว่าวันหนึ่งตัวเองมีกินมีเหลือมากพอแล้ว ดังนั้น ต้องวางแผนการเงินให้ดี มีเงินพอใช้ พอเก็บ พอลงทุน เพื่อโอกาสที่จะได้เห็น "อิสรภาพทางการเงิน" ได้ในภายภาคหน้า

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน สนามข่าว 7 สี ช่วง "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

และรับชมออนไลน์ ผ่าน YouTube: TERO Digital ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.35 น.