อุณหภูมิการเมืองร้อนรายวัน ล่าสุดนายศรีสุวรรณ ถูกชาวบ้านบุกตบหน้า จนปากแตก หลังเจ้าตัวยื่นเรื่อง กกต.สอบพรรคเพื่อไทย ปมนโยบายเงินดิจิทัล
“ศรีสุวรรณ” เจอดี ! ถูกบุกตบปากแตก
ภาพเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น ระหว่างที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐนูญไทย ให้ข้อมูลเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จสิ้น กลับถูกนายทศพล อ้างตัวเป็นอดีตอาจารย์ บุกตบใบหน้าของนายศรีสุวรรณ จนปากแตก และมีร่องรอยเลือดไหลที่มุมปาก จากนั้นทั้ง 2 คน มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด
โดยนายทศพล อ้างว่า ไม่พอใจที่นายศรีสุวรรณ เดินสายร้องเรียนมั่วไปหมด ทั้งร้องเรียนพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย แต่พอเป็นประเด็นปากท้อง อย่างค่าไฟฟ้าแพง กลับไม่ร้องเรียน ส่วนวันนี้ (11 พ.ค.) ได้เดินทางมาทำธุระที่ศูนย์ราชการพอดี จึงทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณ
ขณะที่นายศรีสุวรรณ ได้เดินทางไปแจ้งความตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเอาผิดนายทศพล ข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยนายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ไม่เคยคิดว่าจะถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ เพราะการร้องเรียนนักการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องธรรมดา และนอกจากตนเอง ก็ยังมีประชาชนคนอื่น หรือพรรคการเมือง ร้องเรียนต่อ กกต.เกือบทุกวันอยู่แล้ว รวมถึงการร้องเรียนถือเป็นสิทธิของทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวกลัวว่า ในอนาคตอาจมีการกระทำที่รุนแรงกว่านี้
“ทนายอั๋น” ขอเป็นทนายความมือตบหน้า “ศรีสุวรรณ”
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” ทนายที่ยื่นเรื่องให้กรมสรรพกร ตรวจสอบการเสียภาษีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า พร้อมเป็นทนายให้คุณลุง ที่ก่อเหตุตบหน้านายศรีสุวรรณ
โดย “ทนายอั๋น” บอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้นายทศพล ยังไม่ติดต่อเข้ามา แต่ถ้าต้องการทนาย ตนเองพร้อมเป็นทนายให้ แม้จะไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง แต่สาเหตุทั้งหมด เกิดจากตัวนายศรีสุวรรณเอง ที่มีการเดินเรื่องร้องเรียน ที่ขัดต่อความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในสังคม จนทำให้เรื่องราวบานปลาย แล้วเกิดความรุนแรงขึ้น
เบื้องต้นกรณีของนายทศพล แตกต่างกับกรณีของนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” ที่เคยก่อเหตุวางมวยใส่นายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2565 เนื่องกรณีนายทศพล ก่อเหตุจนนายศรีสุวรรณ มีบาดแผลชัดเจน แต่ของ “ลุงศักดิ์” ไม่มีบาดแผลอะไรชัดเจน แต่ตำรวจมีการแจ้งข้อหาเกินจริง ซึ่งในคดีของนายทศพล ต้องไปต่อสู้เรื่องข้อกล่าวหาว่า เกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่
“เรืองไกร” ยื่นหลักฐานเพิ่มปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องร้อน กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น อาจเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่
โดยวันนี้ (11 พ.ค.) นายเรืองไกร มีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต.เนื่องจากข้อบังคับของพรรคก้าวไกล ที่ระบุว่า ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ฉะนั้นกรณีนายพิธา ต้องพ้นจากสมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคหรือไม่ ฉะนั้น กกต.ต้องดูว่า การเซ็นรับรองการส่งผู้สมัครของพรรคก้าวไกล จะถือว่ายังชอบธรรมหรือไม่
ป.ป.ช.ยัน พิธา ยื่นถือหุ้นสื่อจริง
ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า นายพิธาได้ยื่นหุ้นไอทีวีมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า มีการยื่นเพิ่มเติมหรือไม่ โดยนายพิธา คงเข้าใจว่าไม่ใช่หุ้นของเขา แต่เขาเป็นผู้จัดการมรดก ถ้ามีก็ยื่นเพิ่มเติมได้ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีอยู่จริง ส่วนกรณีถือครองหุ้นดังกล่าว จะทำให้ขาดคุณสมบัติหรือไม่ เป็นหน้าที่ กกต.วินิจฉัย
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35