logo เช้านี้ที่หมอชิต

ไม่ให้ประกันตัว “อดีตพระคม” ชี้คดีโทษสูง หวั่นหลบหนี-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไม่ให้ประกันตัว อดีตพระอาจารย์คม กับพวก ชี้คดีโทษสูง เกรงว่าหลบหนี ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐา ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

227 ครั้ง
|
09 พ.ค. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไม่ให้ประกันตัว อดีตพระอาจารย์คม กับพวก ชี้คดีโทษสูง เกรงว่าหลบหนี ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน กระทำสร้างความเสื่อมเสียพระพุทธศาสนา
 
เมื่อวานนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการกองปราบปราม นำตัว นายคม หรืออดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี, นายวุฒิมา หรืออดีตพระหมอ อายุ 38 ปี และนางสาวจุฑาทิพย์ อายุ 35 ปี ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน
 
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า อดีตพระมหาวุฒิมา เถาว์หมอ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ครอบครองเงินที่ได้รับบริจาคของวัด แล้วถอนเงินสดออกจากบัญชีเงินฝากของวัด ตามคำสั่งการของอดีตพระคม แล้วอดีตพระคมสั่งให้อดีตพระมหาวุฒิมา นำเงินบรรจุใส่กระเป๋าเดินทาง มาส่งมอบให้นางสาวจุฑาทิพย์ ซึ่งเป็นน้องสาวของอดีตพระคมรับไว้ต่างกรรมต่างวาระ ตามสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี
 
จากนั้น นางสาวจุฑาทิพย์ ได้นำเงินสดที่รับมาไปเก็บไว้ที่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามตรวจค้นบ้านพัก พบเงินสด รวมกับที่ยักยอกในส่วนต่าง ๆ รวมกว่า 300 ล้านบาท
 
โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสามจะหลบหนี เพราะคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าจะขนย้ายทรัพย์สินไปซุกซ่อนไว้ที่อื่น และการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จึงขอศาลคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว ระบุเหตุผลว่ามิได้กระทำความผิด
 
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดที่ผู้ต้องหาทั้งสามถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูง มีลักษณะร่วมกันกระทำความผิด โดยที่ผู้ต้องหาที่ 1, 2 อาศัยโอกาสกระทำความผิดในขณะครองสมณเพศ อันเป็นที่เคารพและเชื่อถือศรัทธาของประชาชน พฤติการณ์เป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง ประกอบกับมีการตรวจยึดของกลางคือ เงินสด และความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก หากปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้งสามอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้าน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/CsDNhncYRm8