มุ่งมั่นเกินร้อย “ธีรเดช-ศิวกร” สองมวยฝีมือปรับตัวบู๊ให้ถึงใจในศึก ONE ลุมพินี 15

2,996 ครั้ง

05 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

“ธีรเดช” เก็บความผิดหวังในไฟต์เปิดตัวไว้เป็นบทเรียน ขอกลับมาแก้ตัวกับมวยฝีมือ “ศิวกร” พร้อมปรับสไตล์เปิดเกมแลกสู้ ลุ้นคว้าโบนัสติดมือกลับบ้าน ในฐานะคู่รองศึก ONE ลุมพินี 15

“ธีรเดช ช.ห้าพยัคฆ์” มวยฝีมือครบเครื่องเชิงดี วัย 24 ปี จากอุดรธานี ชกผิดฟอร์มทำพ่ายในไฟต์เปิดตัว กลับมารอบนี้เลยขอมุ่งมั่นเป็นพิเศษ เตรียมเปิดหน้าท้าชนนักสู้ดีกรีแชมป์มวยไทยเวทีช่อง 7 “ศิวกร พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” มวยดักเตะเข่าคม วัย 23 ปี จากสตูล ในกติกามวยไทย พิกัดแคตซ์เวต 143 ป.

ONE Lumpinee : มุ่งมั่นเกินร้อย “ธีรเดช-ศิวกร” ส

เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 7 “ธีรเดช” เจอของแข็งพ่ายน็อกยก 2 “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” แบบน่าผิดหวัง ได้โอกาสกลับมาครั้งนี้ อาการประหม่าลดลงและเริ่มคุ้นชินการใช้นวมเล็ก ขอทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม

“ชกในศึก ONE ลุมพินี ครั้งแรกไปแพ้น็อกให้กับ แรมโบ้เล็ก ผมยังไม่ค่อยพอใจผลงานตัวเองครับ ตอนนี้เห็นน้องไปไกลคว้าตั๋วลุยศึกใหญ่ ONE ได้แล้วผมก็ดีใจด้วย ถือว่าเหมาะสมครับ ส่วนผมได้กลับมาชกอีกครั้งรู้สึกดีใจ ความกดดันน่าจะน้อยลงและเริ่มปรับตัวได้ พร้อมชกให้ดุดันมากขึ้นแล้วครับ”

การต้องมาเจอ “ศิวกร” ที่มีประสบการณ์มากกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย “ธีรเดช” จึงหวังใช้ความเร็วที่ตัวเองเหนือกว่าเป็นอาวุธเด็ดในการเข้าโจมตี ประกอบกับได้ซ้อมแบบเต็มที่ จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะคู่แข่งได้ในไฟต์นี้

“ผมซ้อมมานานต่อเนื่องกว่าเดิมครับ หลังคราวที่แล้วยังมีสะดุดอยู่บ้างเพราะป่วยเป็นไข้ สำหรับไฟต์นี้ผมได้เตรียมเรื่องหมัดมาเป็นพิเศษและเอาข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วกว่ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ ตอนนี้ผมมั่นใจเต็มร้อยแล้วว่าจะเอาชนะเขาได้ เพราะผมเองก็อยากได้โอกาสไปลุยศึกใหญ่ ONE มาก ๆ เลยครับ”

ทางฝั่ง “ศิวกร” ต้องปรับตัวหนักทั้งในการเปลี่ยนมาชก 3 ยกและใช้นวมเล็กเปิดนิ้ว 4 ออนซ์ รวมถึงสไตล์การชกของตัวเองที่ต้องปรับการออกอาวุธให้มากขึ้น โดยเจ้าตัวหวังว่าผลงานจะออกมาดีสมความตั้งใจหลังเก็บตัวซ้อมนานร่วมสองเดือน

“ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้มาชกใน ONE ลุมพินี รายการระดับโลกแบบนี้ครับ ไฟต์นี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของผมเลย แถมยังต้องปรับสไตล์ให้บู๊ออกหมัดเตะขาให้เยอะขึ้นด้วยครับ สำหรับไฟต์นี้ผมซ้อมมานานเกือบสองเดือนถือว่ามีความพร้อมเกินร้อยแล้ว ถ้ามีจังหวะน็อกก็ต้องทำให้ได้ด้วยครับ”

ในฐานะที่ “ธีรเดช” เป็นมวยฝีมือเหมือนกัน “ศิวกร” เลยได้รับคำแนะนำจากเทรนเนอร์ให้พยามชกให้รัดกุม แล้วถ้าเริ่มต้นดีมีชัยก็อยากก้าวไปพิสูจน์ฝีมือในศึกใหญ่ ONE เหมือนนักสู้หลาย ๆ คนเช่นกัน

“ธีรเดช เป็นมวยฝีมือเหมือนกับผมครับ ทำให้เขาเหมือนจะโดนหมัดมากไม่ได้ ส่วนทางเทรนเนอร์ได้เน้นให้ผมบล็อกหมัดให้ดีและออกอาวุธปล่อยหมัดเตะขาให้เยอะ ผมอยากได้ไปชกในศึกใหญ่ ONE มากครับ ไฟต์นี้ผมมั่นใจเลยว่ามีโอกาสชนะน็อกได้เลย เพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ไปต่อครับ”