คดี "เสี่ยปาน" ยังไม่จบ เนื่องจากอดีตเมีย ออกมาร้องสื่อ หลังพี่สาวเสี่ยปาน หอบเงินมรดกที่เสี่ยปาน ทำไว้ให้ลูก แต่ลูกไม่ได้สักบาทเดียว จนต้องแจ้งความจับ
วันที่ 8 พ.ค. 66 เสาวณี ทองวิเศษ (มด) อดีตภรรยาเสี่ยปาน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละวงศ์วัฒนา เล่าว่า เสี่ยปานเสียชีวิตเมื่อ 13 พ.ค. 65 ซึ่งเขาได้ทำพินัยกรรมไว้ เป็นที่ดิน 10 ไร่ พร้อมบ้าน 1 หลัง โดยให้ป้าเก้า พี่สาวของเสี่ยปานเป็นผู้จัดการมรดก เป็นคนดำเนินการขาย แล้วนำเงินแบ่งให้กับลูกชายของเสี่ยปาน โดยถ้าหากขายได้เงิน 3,000,000 บาท ต้องแบ่งให้ลูกชายของตนกับเสี่ยปาน 2,000,000 บาท ส่วนอีก 1,000,000 บาท ให้ทยอยโอนให้ลูกชาย เดือนละ 7,000 บาท จนอายุครบ 20 ปี ขณะเดียวกัน บ้านหลังดังกล่าว ตอนนี้ได้ขายไปแล้วประมาณ 3,000,000 กว่าบาท แต่เงินป้าเก้าเอาไป ตนและลูกชายยังไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
ทั้งนี้ตนก็มารู้ว่าเขาขายบ้านไปแล้วจากป้าติ๋ว ป้าเก้าไม่ได้บอกอะไรตนเลย นอกจากนี้พินัยกรรมฉบับดังกล่าว ทนายของตนไปสืบมาว่า พยานก็เป็นญาติของฝั่งสามีใหม่ป้าเก้า ทนายความก็เป็นน้องเขยของสามีใหม่ป้าเก้า การจัดการทุกอย่างเป็นของฝั่งป้าเก้า ตนไม่ได้รับรู้อะไรเลย ขณะเดียวกันตนมีความสงสัยในลายเซ็นของเสี่ยปานบนพินัยกรรม ซึ่งมันไม่เหมือนกับเอกสารที่ตนเคยให้เสี่ยปานเซ็นตอนรับเงินประกันสังคมตอนคลอดลูก นอกจากนี้ หลังจากเสี่ยปานเสียชีวิต ตนไม่ได้เงินจากเขาสักบาท ตนลำบากมากต้องเลี้ยงลูก ต้องใช้เงินกินทุกวัน เรื่องทั้งหมดทำให้ตนต้องไปแจ้งความจับป้าเก้า ในข้อหายักยอกทรัพย์มรดก
สำหรับความสัมพันธ์ของตนกับเสี่ยปาน ก่อนเขาจะถูกล็อตเตอรี ก็อยู่ด้วยกันมาดี ๆ ตอนถูกล็อตเตอรีก็อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเขาก็ยังไม่เปลี่ยนไป แต่พอถูกล็อตเตอรี ก็เริ่มติดต่อไม่ได้ บ่ายเบี่ยง อ้างไม่ว่างบ้าง ทำธุระบ้าง แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย อีกทั้งยังไม่มาหาตนกับลูก ตนจึงไปฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร สำหรับตน คิดว่าเขาเปลี่ยนไปเพราะเงิน เขาคงกลัวตนไปเอาเงินของเขา
ฟาก ป้าติ๋ว พี่สาวคนโตของเสี่ยปาน เล่าว่า ตนเป็นคนส่งเสียให้เสี่ยปานร่ำเรียน รวมถึงให้เงินเขาคอยดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งก่อนเสี่ยปานจะถูกหวย 30,000,000 บาท ตนก็ได้ยกบ้านให้เขาดูแล 1 หลัง พร้อมรถกระบะมือสองให้อีก 1 คัน โดยหลังจากเสี่ยปานเสียชีวิต ตนก็ได้ดำเนินการทำเรื่องเอาทรัพย์สินคืน เพราะกลัวน้องสาวจะเอาไปขายเล่น ทั้งนี้เสี่ยปาน กับ ป้าเก้านั้น ตอนเด็ก ๆ ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยถูกกัน ส่วนตนกับเสี่ยปานจะสนิทกันที่สุด ซึ่งเสี่ยปานนั้นเขาชอบเล่นหวย โดย ป้าเก้าเป็นคนขายหวยใต้ดิน ซึ่งเสี่ยปานก็ซื้อจากป้าเก้า แล้วสามารถติดเงินไว้ก่อนได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ป้าเก้าไม่ยอมนำเงินมาให้ลูกของเสี่ยปาน ตนมองว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะจริง ๆ มันต้องเป็นของหลาน ซึ่งถ้าเขาจะมาอ้างว่าไม่นำเงินมาให้ เพราะเขาเป็นคนดูแลเสี่ยปานตอนป่วย ตนมองว่าเขาสร้างภาพ เพราะตอนที่แม่ป่วย ป้าเก้าไม่เคยดูแลเลย ขณะเดียวกัน ตนก็มาได้ยินว่าเขาเลิกกับภรรยา โดยเสี่ยปานให้เหตุผลว่า ภรรยาเล่นชู้ ซึ่งตนก็ได้ถามกลับว่าสืบค้นแล้วจริงหรือเปล่า ซึ่งเสี่ยปานบอกว่า มีแแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้บอกมา ตนก็มาทราบภายหลังว่าก็คือป้าเก้า เขาเป็นคนคอยเป่าหู
ทั้งนี้ ลูกชายและญาติ ๆ มาเล่าให้ตนฟังว่า บ้านหลังดังกล่าว เคยมีชาวต่างชาติมาติดต่อขอซื้อในราคา 6,000,000 บาท แต่ป้าเก้าไม่ขายให้เขา แต่กลับไปขายให้กับญาติของสามีใหม่ป้าเก้า ในราคา 3,000,000 บาท
ด้าน ภาณุมาศ จิตรวศินกุล (เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย) กล่าวว่า คุณมด เขาต้องต่อสู้ในกระบวนการเหล่านี้กันแค่ 3 คน จึงมาขอความช่วยเหลือจากตน ซึ่งจากที่ตนดูพินัยกรรม ตนก็เกิดความสงสัยว่า เสี่ยปานมีทรัพย์สินเหลือแค่นี้หรือ ทั้ง ๆ ที่เขาถูกล็อตเตอรีมากว่า 30,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่น ๆ ไปไหนหมด รวมถึงบัญชีเงินสดก็ไม่มี กลับมีมรดกให้ลูกแค่บ้านหลังเดียว
ส่วน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า สำหรับลายเซ็นของเสี่ยปานบนพินัยกรรม ตนมองว่าปลอมแน่นอน เพราะมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอคัดถ่าย แล้วเอาต้นฉบับให้ตำรวจตรวจ งานนี้มีคนติดคุกแน่นอน ไม่ว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นพินัยกรรมปลอม บ้านที่ขายไปแล้วนั้น หากผู้ซื้อเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้มีส่วนได้เสีย กฎหมายจะคุ้มครอง แต่ถ้ามีส่วนได้เสียกัน ยังไงก็โดน สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ แนะนำให้ไปยื่นร้องขอถอดถอนชื่อป้าเก้าออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก เนื่องจากมีพฤติการณ์เชื่อได้ว่า ไม่ทำหน้าที่จัดการมรดกตามคำสั่งศาล
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35