“อุ๊งอิ๊งค์” ลั่น ! ไม่ผิดที่จะมีความหวัง หลัง “ทักษิณ” อยากกลับบ้านเลี้ยงหลาน | ขอบสนามเลือกตั้ง 66

254 ครั้ง

03 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

“อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร” แถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังคลอดลูกชาย โดยตัวเธอหวังว่าผู้เป็นพ่อ จะได้กลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ตามความปรารถนาอีกครั้ง

“อุ๊งอิ๊งค์” หวัง “ทักษิณ” ได้กลับบ้านเลี้ยงหลาน

วันนี้ (3 พ.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเป็นครั้งแรก หลังจากคลอดลูกชาย โดยระบุถึงเหตุผลที่ตั้งชื่อลูกว่านายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือ “น้องธาษิณ" ซึ่งเป็นการนำชื่อของคุณแม่และคุณพ่อ คือ คุณหญิงพจมาน และนายทักษิณ มารวมกัน

ส่วนกรณีนายทักษิณ จะกลับมาบ้านนั้น น.ส.แพรทองธาร บอกว่า ไม่ผิดที่ลูกจะมีความหวัง ในวันที่บ้านมีแต่เรื่องดี ๆ โดยตนเองมีการคุยกับคุณพ่อทุกวัน ส่วนใหญ่จะถามเกี่ยวกับเรื่องลูก แต่ไม่คิดจะถามเรื่องการกลับมา โดยคุณพ่อมีการวางแผนเอง เพราะท่านเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความหวังจะกลับประเทศ เพื่อเลี้ยงหลาน ซึ่งอีก 4 เดือนข้างหน้า จะพาหลานไปเจอคุณพ่อ

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า วันที่ 12 พ.ค.นี้ จะขึ้นปราศรัยใหญ่อย่างแน่นอน โดยเน้นเรื่องนโยบายของพรรคเป็นหลัก

“ศรีสุวรรณ” ยื่นสอบอดีตนายกฯ ครอบงำพรรค

ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยข้อความไลน์ ที่อ้างว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี พูดคุยกับแกนนำเสื้อแดง โดยมีการโอนเงินหลักล้านบาท ให้ทำกิจกรรมดึงคนเสื้อแดงที่แปรพักตร์ ให้กลับมาเลือกพรรคที่เจ้าตัวอยู่เบื้องหลังอีกครั้ง

โดยนายศรีสุวรรณ บอกว่า หากหลักฐานดังกล่าวเป็นของจริง ถือเป็นพฤติการณ์ครอบงำพรรคหรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และพิจารณาไต่สวน เพื่อเอาผิดตามขั้นตอน

แจงปมชื่อโผล่เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต จ.อุบลราชธานี

ปิดท้ายปัญหาวุ่น ๆ ของนายบุญมา อายุ 72 ปี และ น.ส.วรัญญา อายุ 68 ปี ชาวบ้านในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีชื่อลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า โดยชื่อของนายบุญมา โผล่อยู่ในเขตลงคะแนนเลือกตั้งที่ 2 อำเภอระงู จังหวัดสตูล ส่วน น.ส.วรัญญา อยู่เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ล่าสุด นายปัญญา สิทธิจินดา พนักงานสืบสวนและไต่สวน ชำนาญการ กกต.อุบลราชธานี ระบุว่า กรณีนี้ไม่มั่นใจว่า มีคนอื่นไปลงทะเบียนให้ทั้ง 2 ตายาหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบสำนักทะเบียนเทศบาล พบว่ามีการลงทะเบียนถูกต้องทั้ง 3 ส่วน คือ ข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลของทะเบียนบ้าน และข้อมูลส่วนตัว

ฉะนั้นหลังจากนี้ ทั้งคู่ต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อชี้แจงถึงเหตุขัดข้อง จนไม่สามารถไปลงคะแนน และไม่ทำให้เป็นผู้เสียสิทธิ์ แต่การจะทำให้มีชื่อกลับมาลงคะแนน ในเขตเดิมอีกครั้ง ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง ต้องดำเนินการ 30 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35