แม่ใจสลาย ! ลูกตาบอดเฉียบพลัน โอกาสเป็น 1 ในแสน จ.นครราชสีมา

189 ครั้ง

03 พ.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เวลาที่ลูกป่วย ไม่ว่าจะมีอาการเล็กน้อยแค่ไหน คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ใจสลาย ถ้าเจ็บป่วยได้ก็อยากป่วยแทน แต่ที่แย่กว่านั้น คือ ลูกป่วยหนัก ถึงกับ “ตาบอดเฉียบพลัน” จากโลกที่เคยสดใสกลายเป็นมืดมน

กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจโลกออนไลน์ หลังคุณนาว แม่ของ น้องภูผา เด็กชายวัย 4 ขวบ ออกมาเล่าว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เป็นวันที่คนเป็นแม่ใจสลาย เพราะอยู่ ๆ น้องภูผา ก็ตาบอดเฉียบพลัน ทั้งชีวิตของเขามองเห็นมาทั้งชีวิต อยู่ ๆ มาตาบอดมองไม่เห็น โลกที่สดใสกลับกลายเป็นมืดหม่นไปหมด

โดยในคลิปจะเห็นคุณแม่ชูนิ้วไปที่ด้านหน้าของ ลูกชาย พร้อมถามว่า กี่นิ้วเนี่ยลูก? แต่ลูกกลับทำเพียงส่ายหน้า เนื่องจากมองไม่เห็น และเมื่อแม่ถามต่อไปว่า เอาดวงตาแม่ไปไหม ลูกก็ตอบกลับมาอย่างชัดเจนทันทีว่า "ไม่" พร้อมทั้งให้เหตุผลที่ทำเอาแม่อดไม่ได้ที่จะเสียงสั่นว่า "แม่เก็บดวงตาดี ๆ ไว้เถอะ"

หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากชาวโซเชียลฯ คนจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ พร้อมทั้งแนะนำโรงพยาบาลเพื่อให้น้องภูผาลองไปตรวจดูอีกครั้ง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบ คุณแม่ และน้องภูผา ที่หมู่บ้านขนงพระเหนือ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนบอกว่า หลังรู้ว่าลูกมองไม่เห็น วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 จึงได้รีบพาน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมาทันที เพื่อทำ MRI เข้าอุโมงค์ เพื่อตรวจหาก้อนเนื้องอกในสมองและตรวจดูเส้นประสาท โดยน้องโดนวางยาสลบไป 8 โดส แต่น้องต้านยามาก

และความน่าเจ็บปวดยิ่งกว่านั้นคือ คือ หลังจาก ทำ MRI อาการหลังโดนยาสลบ น้องมีอาการ เบลอยา อารมณ์รุนแรงมาก ทั้งกัด ต่อย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่รักษาตัว 1-2 เดือน ทางโรงพยาบาลได้เจาะไขสันหลังทุกวัน เพื่อไปทำการตรวจสอบ จนกระทั่งคุณหมอสันนิฐานว่า เป็นโรคความดันในสมองสูง แต่สาเหตุที่แน่ชัดร้อยเปอร์เซ็น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นโรค 1 ในแสนคนที่เป็นแบบนี้

ส่วนอาการของ น้องภูผา ล่าสุด มีอาการดีขึ้น มองเห็นประมาณ 70% แล้ว แต่ไม่สามารถมองเห็นในระยะ ใกล้ ๆ ได้ ต้องห่างออกไปซักประมาณ 30 เซนติเมตร แต่การมองเห็น คุณหมอ บอกว่า ยังรักษาไม่หายขาด อาจจะกลับมาเป็นได้อีก ซึ่งทำให้ตนเองต้องออกจากงาน มาดูแลลูกชายอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่ารู้สึกสงสารลูกมาก แต่ตนเองสามารถบริจาค ดวงตา ให้ลูกได้ ตนเองก็จะทำ

นอกจากนี้ คุณแม่ของน้อง ยังบอกอีกว่า ส่วนเรื่องการดูโทรศัพท์ ยอมรับว่าน้องก็ดู แต่ทางครอบครัวให้เป็นเวลา และให้ดูในทีวีมากกว่า ส่วนตอนนี้ ต้องการให้ผู้ใจบุญ เข้ามาช่วยเหลือครอบครัว และวิงวอนว่า หน่วยงานไหน โรงพยาบาลไหน สามารถดูแลรักษาน้อง ช่วยมารักษาลูกชายให้ที

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35