พูดคุยกับ รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในประเด็นเรื่องความนิยมของพรรคก้าวไกลในโลกออนไลน์ และผลโพลจากหลายสำนัก ที่นับวันยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และประเด็นก้าวข้าวความขัดแย้ง แต่ทำไมพรรคพลังประชารัฐ ถึงไม่ยอมร่วมงานกับพรรคก้าวไกล
วันที่ 4 พ.ค. 66 คุณรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า หลังจากผลล่าสุดของนิด้าโพล ตนรู้สึกไม่แปลกใจ เพราะจากที่ลงพื้นที่มาตลอด เห็นว่ามีกระแสความนิยมของพรรคมีมานานแล้วก่อนการทำโพลนี้ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนพรรคเป็นจำนวนมาก
ช่วงโค้งสุดท้าย พรรคก้าวไกลจะจัดคาราวานไปทั่วทุกภูมิภาค เพื่อกระจายความนิยมให้ประชาชนเข้าใจในนโยบายของพรรคมากขึ้น ส่วนเรื่องการถูกใส่ร้าย ตนเข้าใจว่าในการเลือกตั้งทุกครั้งจะต้องมีผู้โดนสาดโคลนมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องล้มเจ้า ยกเลิกบำนาญ งานศพพ่อของคุณพิธา ทางพรรคได้ชี้แจงไปแล้ว แต่พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะต้องการทำต่อไป เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และจะไม่เสียเวลาอธิบายซ้ำอีก
คุณไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าตนไม่เชื่อผลโพลจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการจูงใจ และอาจจะผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ นอกจากนี้วิธีการสำรวจตัวอย่างของโพลไม่มีความละเอียดมากพอ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ ส่วนกระแสของพรรคก้าวไกลในโลกโซเชียล ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง โลกความจริงอยู่ที่เขตเลือกตั้ง 400 เขต ซึ่งจะต้องแยกออกจากกัน ตนมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐก็ได้รับความนิยมจากประชาชนเช่นกัน ไม่ต่างกับพรรคก้าวไกล
จากที่สำรวจคุณไพบูลย์ มั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้ สส. มากกว่า 100 ที่นั่งแน่นอน จากการสำรวจที่ผู้สมัคร สส. ได้ลงพื้นที่แต่ละเขตมา ดังนั้นจึงไม่ควรเชื่อผลโพลมากเกินไป ส่วนคุณรังสิมันต์ โรม กล่าวว่าพรรคก้าวไกลมีเป้าหมาย สส. 160 ที่นั่ง ซึ่งหวังมาจากครั้งแรกว่าจะต้องไม่น้อยกว่าเดิม แต่ตอนนี้จากกระแสที่เห็น จึงมั่นใจว่าสามารถหวังได้มากกว่านี้
เรื่องนโยบายพรรคพลังประชารัฐ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” แต่ประกาศไม่ร่วมงาน คุณไพบูลย์กล่าวว่าเป็นเพราะพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ชอบมีความขัดแย้งกับใคร จึงไม่อยากสร้างความขัดแย้งเพิ่ม ซึ่งเป็นนโยบายที่เหนือนโยบาย สามารถนำนโยบายของใครก็ได้มาปรับใช้หากเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ที่ไม่อยากร่วมงานกับพรรคก้าวไกล เพราะมีการพูดถึงมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกลต้องการแก้ไข ส่วนเพื่อไทยก็มีท่าทีไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรา 112 จึงไม่อยากร่วมงานด้วยเช่นกัน
คุณไพบูลย์ เห็นว่าความขัดแย้งไม่ได้มีเรื่องเดียว ความขัดแย้งคือปัญหาทุก ๆ อย่างของประชาชน ส่วนคุณรังสิมันต์ โรม มองว่ามาตรา 112 เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและปัญหาของประชาชน จึงต้องการแก้ไข เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มมาใช้รังแกประชาชน และคิดว่าพรรคพลังประชารัฐคือส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง
ประเด็นเรื่องแชตหลุดจากไลน์ ที่อ้างถึงพรรคก้าวไกล คุณรังสิมันต์ โรม เห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับทุกพรรค ซึ่งเป็นการพยายามหยุดความนิยมของพรรคก้าวไกล ซึ่งตนรู้ว่าแชตนี้หลุดมาจากใคร แล้วนำไปให้ช่อง Top News จึงเกิดเป็นข่าวนี้ขึ้น และสิ่งนี้ไม่เป็นความจริง จากหลักฐานที่พบคาดว่าจะเป็นการรับงานมาจากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์ ด้านคุณไพบูลย์ กล่าวแบบนักกฎหมายว่าถ้าหากเป็นความจริง พรรคการเมืองจะมีความผิดหลายมาตรา
คุณรังสิมันต์ โรม ยืนยันว่าคําสบประมาทที่ว่า ถ้าเป็นพรรครัฐบาลจะบริหารประเทศเป็นหรือไม่ ตนเจอมาตั้งแต่เมื่อตอนเป็น สส. ครั้งแรก ก็มีคําสบประมาทว่าจะทำหน้าที่ สส. ได้หรือไม่ แต่ก็พิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นแล้วตลอด 4 ปี และเชื่อว่าถ้าหากเป็นรัฐบาล พรรคก้าวไกลจะพัฒนาประเทศได้มากกว่านี้ ส่วนคุณไพบูลย์ เชื่อว่าผู้ที่จะบริหารประเทศจะต้องมีความรู้และมีประสบการณ์ ต้องมีการเรียนรู้เป็นขั้นตอน แต่ทุกคนก็สามารถเป็นรัฐบาลได้เหมือนกันถ้าหากมีโอกาส
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35