ตัวแทนจาก 7 พรรคการเมือง ร่วมประชันวิสัยทัศน์ ในประเด็น ใกล้โค้งสุดท้าย มีการเปิดข้อมูลซื้อเสียงออกมาในหลายพื้นที่ จนมีการระบุว่า เลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้เงินจำนวนมาก แต่ละพรรค มีจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างไร บนเวที BIG DEBATE สุพรรณบุรี
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐไม่สนับสนุนแน่นอน ถ้าหากประชาชนจะต้องเลือกตัวแทนของตัวเอง ก็จะไม่เลือกคนโกงเข้าไปบริหารประเทศ และจะต้องเลือกคนที่ทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
วรภพ วิริยะโรจน์ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล ไม่ยอมรับการซื้อสิทธิ์ขายเสียงทุกรูปแบบ ซึ่งบางคนอาจจะยอมอยู่ภายใต้อำนาจนิยม แต่การเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากมีผู้ที่มีเจตจำนงที่ชัดเจน แม้แต่การสนับสนุนพรรคการเมืองจากกลุ่มทุนผูกขาดหรือทุนสีเทา ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ไม่ยอมรับ เพราะจะทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์
วราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เชื่อว่านโยบายที่ดีจะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจเลือกได้ ซึ่งนักการเมืองก็จะไปถอนทุนคืนเมื่อได้รับตำแหน่ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นการใช้ช่องโหว่กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ถ้าหากมีนโยบายที่ทำให้ประชาชนมีเงินมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป
เมฆินทร์ เอี่ยมสอาด พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันอุดมการณ์ของพรรคว่าไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เน้นย้ำว่าอดีตนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีประวัติหรือคดีการทุจริต จึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองสู้กันที่นโยบายเพื่อเข้าหาประชาชน มากกว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
คริส โปรตะนันทน์ พรรคเส้นด้าย กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเป็นหัวใจของการเมือง นอกจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ยังมีการทุจริตเกิดขึ้นในการแก้ปัญหาโควิด-19 มากกว่า 500,000 ล้านบาท แนะนำว่าถ้าหากมีคนมาซื้อเสียง ขอให้รับเงินเอาไว้ เพราะทุกบาทคือภาษีของประชาชน แล้วมากาพรรคเส้นด้าย นอกจากนี้ยังมีการซื้อเสียงหลังเลือกตั้ง โดยการใช้นโยบายแจกเงินเพื่อชักจูงให้ประชาชนเลือก
พิชัย นริพทะพันธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ให้ประโยชน์กับประชาชนมากกว่าการซื้อเสียง แต่รัฐบาลนี้ทำให้ประชาชนจนลงแล้วมาซื้อเสียงเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ต่อ นอกจากนี้ยังมีการทุจริตอีกมากมายในหลายภาคส่วน ที่ทำให้ประเทศไทยไม่พัฒนาและประชาชนยังจมอยู่กับความยากจน
น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า เงินเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราผู้แทนที่ดีก็จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวกับต้นทุนในหชการซื้อเสียง พร้อมฝากถึงประชาชนอย่าเลือกคนที่ซื้อเสียงเข้าสภา เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง