มาตามคืบหน้ากันต่อกับคดี แอม ไซยาไนด์ วันนี้มีแม่ของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ ที่คาดว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตรายแรก เข้าให้ปากคำกับตำรวจ เพราะแม่คาใจลูกสาวเสียชีวิตอย่างปริศนา หลังแอมไปรับที่สนามบิน
จากกรณี นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ ได้กระทำความผิดนำสารเคมีไซยาไนด์มาใช้วางยาจนปรากฏมีผู้เสียชีวิต และผู้ที่คาดว่าเสียชีวิตจากไซยาไนด์ดังกล่าวกว่า 13 ราย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเช้านี้ ตำรวจได้พาตัว นางลัดดา ขาวอินทร์ อายุ 64 ปี แม่ของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ ทราย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้เดินทางมาพร้อมกับญาติอีก 2 ราย เพื่อเข้าให้การในฐานะพยานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม นางลัดดา ว่า วันนี้จะมีการให้ปากคำอย่างไรบ้าง รู้สึกเบาใจขึ้นหรือไม่ ซึ่งนางลัดดาได้ตอบผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า ค่ะ รวมถึงยังพยักหน้าตอบรับนักข่าว ในคำถามที่ว่า ขณะนี้เชื่อแล้วหรือไม่ว่าลูกสาวถูกทำให้เสียชีวิต โดยนางลัดดาตอบว่า เชื่อค่ะ เมื่อถามต่อว่า ใครเป็นผู้กระทำให้ลูกสาวเสียชีวิตนั้น นางลัดดา ระบุว่า ไม่เห็นว่าเขาทำ แต่มั่นใจว่าเป็น แอม โดยทั้ง แอม และทรายมีความสนิทกัน จากนั้น เมื่อถามต่อว่าอยากให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษประหารชีวิตใช่หรือไม่ นางลัดดา ระบุสั้น ๆ ว่า อยากให้ประหารค่ะ จากนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องพนักงานสอบสวนเพื่อรอคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศูนย์ฝึกอบรม กอง บช.น. ดำเนินการสอบปากคำ
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ มีรายงานด้วยว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี แอม สรารัตน์ เพื่อสรุปคดีทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากที่มีการมอบหมายงานให้สถานีตำรวจแต่ละพื้นที่ดำเนินการ พร้อมกับรับเรื่องราวร้องทุกข์เพิ่มเติมว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่
ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้มอบรางวัล เป็นกระเช้า พร้อมเงิน 50,000 บาท ให้ นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อ คดีแอม ไซยาไนด์ ในฐานะเป็นตัวอย่างของพลเมืองดี ที่ไม่เพิกเฉยต่อสังคม ติดตาม และเป็นบุคคลที่ทำให้ตำรวจสามารถคุมตัว นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือแอม ผู้ต้องหาวางสารไซยาไนด์ จนมีผู้เสียชีวิต 13 รายได้
ด้าน นายรพี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน และขอบคุณ คุณอัจฉริยะที่มีน้ำใจ แสดงเจตนารมย์สนับสนุนคนที่กระทำในลักษณะนี้ คุณอัจฉริยะก็เป็นอีกคนที่ตนมองเป็นไอดอลในการช่วยเหลือสังคม แต่วันนี้ตนขอรับน้ำใจพี่อัจฉริยะให้ไว้ แต่เงินต้องขออนุญาตปฏิเสธไม่ขอรับเงิน เนื่องจากกังวลว่าจะผิดอุดมการณ์ของตนเอง
ส่วนเรื่องที่แม่ของน้องทรายมาให้ปากคำในฐานะพยานในวันนี้ ตนเองอยากให้ตามหาหลานของคุณทรายให้เจอ เพราะหลานของคุณทรายน่าจะมีเอกสารบางอย่าง ที่เชื่อมโยงให้แอมตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดกทราย
ต่อมา ทางด้าน พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเฉพาะคดีการเสียชีวิตของนางสาวก้อย ขณะนี้รอพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมมาประกอบสำนวนคดีให้สมบูรณ์มากขึ้น และยังไม่พบว่ามีผู้อื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่เส้นทางการเงินอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยง โดยเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการกู้ยืมเงิน และวงแชร์ ส่วนการจำนำรถยนต์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนอดีตสามีเป็นตำรวจตำแหน่งรองผู้กำกับการ ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้อง ซึ่งยังต้องตรวจสอบต่อไป ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้เสียหายที่เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย และผู้รอดชีวิต 1 คน ที่ถูกเข้าในสำนวน และออกหมายจับไปแล้ว 3 คดี
แต่ในส่วนที่มีคลิปวีดีโอเผยแพร่ในโซเชียล ว่าอดีตสามีของผู้ต้องหา ช่วยพูดคุยกับผู้เสียหายที่โดนหลอกทำธุรกิจหวยใต้ดินกับนางสาวแอม ถูกสงสัยว่ามีรู้เห็นหรือไม่ ขอตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง หากพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่าสามารถตรวจพบรถของนายแด้ อดีตสามีที่เสียชีวิต เป็นรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อ เชฟโรเลต ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่ามีบุคคลปริศนาขับรถคันดังกล่าวไปรับแอมที่จังหวัดอุดรธานีในช่วงที่เสียชีวิตเพื่อกลับมาที่จังหวัดนครปฐม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าคนที่ขับรถเป็นใคร
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/OSASNn3rKkY